แก้ไขล่าสุด cho เมื่อ 22-11-2009 08:56
บันทึกเรื่องเล่าต่อกันมาจากคัมภีร์พระพุทธศาสนา...
สามเณรรูปหนึ่ง เป็นศิษย์ในสำนักของพระสารีบุตร พระอัครสาวกเบื้องขวาของพระพุทธเจ้า ได้รับการพยากรณ์จากพระสารีบุตรว่า "ชะตาถึงฆาต" จะต้องมรณภาพ ภายใน ๗ วันขอให้ปลงอายุสังขารเสีย
พอสามเณรได้ฟังดังนั้น ในฐานะนักปฎิบัติธรรม ท่านจึงมิได้สะทกสะท้าน หรืออาลัยในชีวิตแต่อย่างใด ไหนๆ ก็จะละสังขารแล้ว จึงขออำลาพระอาจารย์ไปโปรดโยมบิดา มารดาสัก ๓ วัน เพื่อเป็นการตอบแทนพระคุณเป็นครั้งสุดท้าย
เมื่อได้รับอนุญาตแล้วก็ออกเดินทาง กะว่าจะใช้เวลาไปกลับให้ทันก่อนกำหนด เพื่อฟังธรรมจากพระสารีบุตรเป็นครั้งสุดท้าย
ในระหว่างการเดินทาง เนื่องจากในช่วงเวลานั้นเป็นหน้าแล้ง น้ำในลำธาร ห้วยหนอง เหือดแห้ง สามเณรได้เห็นปลาน้อย จำนวนหนึ่ง ที่กำลังดิ้นกระแด่ว ๆ ใกล้จะถึงเวลาตายอยู่ในบ่อน้ำที่กำลังแห้งเหือด ด้วยจิตที่เป็นเมตตา ท่านได้นำจีวรช้อนตักปลาฝูงนั้น ไปปล่อยในแม่น้ำสายใหญ่ แล้วจึงเดินทางต่อไป
หลังจากโปรดโยมบิดามารดาและเดินทางกลับมายังสำนักแล้ว พอครบกำหนดตามที่พระสารีบุตรพยากรณ์เอาไว้ ก็เข้าไปกราบลาเพื่อขอฟังธรรมก่อนละสังขาร แต่พระสารีบุตรกลับไม่แสดงธรรมโปรด และได้กล่าวกับสามเณรว่า "กรรมดีที่เณรได้ช่วยชีวิตฝูงปลา ซึ่งบังเอิญเป็นเจ้ากรรมของเณรแต่อดีตชาติ ประกอบกับบุญกุศลที่เณรได้ทำไว้ด้วยการถือเพศบรรพชิตในปัจจุบัน ทำให้เจ้ากรรมนายเวรเกิดความปีติ ทั้งสองฝ่ายได้ยินยอมให้กรรมหนักถึงตายของเณรหลุดพ้น ด้วยการ "อโหสิกรรม" ต่อกัน เณรได้พ้นกรรมบัดนี้แล้ว"
จากเรื่องดังกล่าว จึงทำให้มีการทำบุญสะเดาะเคราะห์ด้วยการปล่อยนก ปล่อยปลา ไถ่ชีวิตสัตว์ที่กำลังจะตาย..เช่น ไถ่ชีวิตโคกระบือ ในพุทธศาสนาแต่นั้นมา การแก้กรรมเมื่อชะตาถึงฆาต โหราจารย์มักแนะนำแก้กรรมด้วยการให้ทานชีวิตสัตว์เป็นดีที่สุด
บทสนทนาธรรมจากเจ้าอาวาสวัดหัวกระบือ กรุงเทพฯ... เมืองเสน่ห์กาหลง.. http://khalong.com/board/viewthread.php?tid=67&extra=page%3D1
|