เมืองเสน่ห์กาหลง มหาเสน่ห์ มหาเมตตา มหานิยม
Khalong Amulet
3928
13
ซ่อนแถบด้านข้าง

ระดมชำระสักยันต์ชี้อาจารย์ทำเลอะ! อักขระเพี้ยน?

[คัดลอกลิงก์]
cho โพสต์เมื่อ 18-8-2010 07:38 | แสดงโพสต์ทั้งหมด |โหมดอ่าน
แก้ไขล่าสุด cho เมื่อ 18-8-2010 08:51

อักขระเพี้ยนจากคัมภีร์มุ่งประโยชน์เชิงพาณิชย์
         

นักวิชาการด้านอักษรศาสตร์ ชี้เกจิอาจารย์ด้านสักยันต์ทำกันนอกลู่นอกทาง ทั้งที่การเขียนยันต์เป็นมรดกทางภูมิปัญญาของชาวพุทธในสมัยโบราณ
         

ไทยโพสต์ 16 สิงหาคม 2553 - นักวิชาการอักษรศาสตร์ชี้เกจิอาจารย์สักยันต์นอกลู่คัมภีร์ ใช้ตัวอักขระผิดเพี้ยน เน้นสวยงามและโก้เก๋ มุ่งประโยชน์เชิงพาณิชย์ ปลุกเสกวัตถุมงคลผิดหลักวัตถุประสงค์ดั้งเดิมที่ให้ฝึกจิตเพื่อความว่างและหลุดพ้น ระดมผู้รู้ระบบเลขยันต์ประมวลองค์ความรู้ให้เป็นระบบและสืบทอดมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของบรรพบุรุษ โชว์สักยันต์ เมืองเสน่ห์กาหลง
   Picture1.jpg         

รศ.สุกัญญา สเจฉายา ผู้อำนวยการศูนย์คติชนวิทยา คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยว่า ในระหว่างวันที่ 19-20 สิงหาคมนี้ ศูนย์คติชนวิทยาฯ จัดสัมมนาเรื่องเครื่องรางของขลัง วัฒนธรรมชาวพุทธในสุวรรณภูมิ เพื่อรวบรวมองค์ความรู้เรื่องเครื่องรางของขลังของคนไทยในมิติวิชาการ และสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องในเรื่องระบบเลขยันต์ของไทย ซึ่งเป็นศาสตร์ชั้นสูงที่เกี่ยวข้องกับการฝึกจิตตามแนวทางของพระพุทธศาสนา แต่ในปัจจุบันกลับถูกนำมาใช้นอกลู่นอกทาง โดยมีบรรดาเกจิอาจารย์ คนทรงเจ้า ครูเทพ ฤาษี และพระภิกษุสงฆ์เป็นผู้ทำพิธีกรรม เน้นหนักในเชิงพาณิชย์ ซึ่งมีแนวโน้มได้รับความนิยมจากผู้คนมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งที่ความจริงแล้วการเขียนยันต์เป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาวพุทธในสมัยโบราณ ไม่ใช่ไสยศาสตร์หรือความเชื่องมงายอย่างที่เป็นทุกวันนี้
         

รศ.สุกัญญากล่าวว่า ปัจจุบันมีหลักฐานที่ยืนยันถึงศาสตร์การฝึกเขียนยันต์แบบต่างๆ เป็นคัมภีร์ 5 เล่ม ได้แก่ คัมภีร์ปถมัง คัมภีร์อิธะเจ คัมภีร์ตรีนิสิงเห คัมภีร์มหาราช และคัมภีร์พุทธคุณ เลขยันต์ต่างๆ ที่บรรจุอยู่ในคัมภีร์ดังกล่าวถือเป็นต้นแบบของยันต์ทั้งหลายที่ปรากฏอยู่ในสังคมไทย แต่กลับถูกนำมาใช้ผิดทั้งวัตถุประสงค์และวิธีการลงยันต์ การเขียนอักขระตัว "นะ" ก็คลาดเคลื่อนจากคัมภีร์ เกิดยันต์รูปแบบใหม่ที่เน้นความสวยงามและความโก้เก๋เพียงอย่างเดียว เมื่อสำรวจยันต์ต่างๆ ของเกจิอาจารย์ชื่อดังที่ดารานักแสดงและวัยรุ่นนิยมไปสักยันต์ ก็พบว่าเขียนไม่ถูกต้องตามคัมภีร์ โดยนำอักขระแต่ละตัวมาจับแพะชนแกะ ผสมปนเปกันจนเพี้ยนไปหมด
         

"คัมภีร์การเขียนยันต์เป็นตัวอักษรขอม อักขระเหล่านี้มีความศักดิ์สิทธิ์ คนภาคกลางของไทยสมัยโบราณไม่นิยมเขียนหรือสักยันต์บนผิวหนัง แต่จะเขียนบนแผ่นผ้าติดตัวไว้ใช้ในการทำศึกสงคราม เป็นที่นิยมของทหารและนักรบเพื่อเตือนสติและไม่ประมาท ผู้เขียนยันต์เป็นพระสงฆ์ มีเป้าหมายสูงสุดคือ สุญตาหรือความว่างและหลุดพ้น แต่น่าเสียดายว่าภูมิปัญญาไทยด้านนี้ขาดผู้สืบทอดได้ตรงตามแก่นแท้ ทำให้มีกลุ่มผู้ที่อ้างอำนาจของเทพเจ้าหรือลัทธิไสยศาสตร์เข้ามาสืบทอด โดยนำระบบยันต์มาใช้เป็นธุรกิจการค้า การสักผิวหนังและปลุกเสกวัตถุมงคลเทวรูป ตะกรุด ผ้ายันต์ ซึ่งเป็นสินค้าด้านความเชื่อที่ได้รับความนิยมสูงมากจากผู้บริโภค" ผู้อำนวยการศูนย์คติชนวิทยาฯ กล่าว เมืองเสน่ห์กาหลง
         

นักวิชาการด้านอักษรศาสตร์กล่าวว่า ระบบเลขยันต์เป็นศาสตร์ที่เกิดขึ้นในสมัยพุทธศาสนายุคโบราณ แต่ไม่สามารถระบุช่วงเวลาที่ชัดเจนได้ โดยมีรากฐานมาจากความเชื่อแบบวิญญาณนิยมผสมผสานกับความเชื่อในศาสนาพราหมณ์-ฮินดู ชาวพุทธในสุวรรณภูมิไม่ว่าจะเป็นจาม มอญ ขอม เขมร พม่า ไทยใหญ่ ไทยเขิน ลาว มลายู และชาวสยาม มีวัฒนธรรมที่เกี่ยวข้องกับเวทมนตร์คาถา โดยเฉพาะพระภิกษุเป็นกลุ่มที่เชี่ยวชาญเรื่องเลขยันต์มากที่สุด ได้ย่อพระสูตรต่างๆ เป็นอักขระจัดเรียงในรูปแบบตารางหรือลายเส้นเป็นตัวเลข รูปภาพ แล้วแกะหรือสักลงบนแผ่นผ้า ไม้ โลหะ ถือเป็นของศักดิ์สิทธิ์ มีอานุภาพในการปกป้องคุ้มครองที่น่าทึ่งก็คือ ความรู้เรื่องยันต์ในคัมภีร์มีความสอดคล้องกับทฤษฎีฟิสิกส์สมัยใหม่ที่นักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกกำลังสนใจ มีเรื่องทางดาราศาสตร์และระบบแผนผังจักรวาลเข้าไปผสมผสานอยู่ด้วย แต่คนในสมัยนี้กลับนำองค์ความรู้เรื่องเลขยันต์ไปใช้สักผิวหนังในเชิงพาณิชย์ มีการนำรูปแบบยันต์ของชนชาวหมู่เกาะมาผสมกับยันต์ชาวพุทธจนเลอะเทอะ บ้างก็สักรูปหนุมาน เสือ จิ้งจก ลงนะเมตตา ซึ่งในคัมภีร์นั้นไม่มีเขียนไว้เลย ถือว่าเรานำมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของบรรพบุรุษไปใช้ในทางเสื่อม และกลายเป็นเรื่องงมงาย ไร้สาระและมอมเมา ทั้งๆ ที่เป็นศาสตร์โบราณ และเมื่อเร็วๆ นี้ คัมภีร์เรื่องระบบเลขยันต์ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ประจำปี 2553 จากสำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ (สวช.) เมืองเสน่ห์กาหลง
         

"โครงการเสวนาเรื่องเครื่องรางของขลังเป็นการระดมผู้รู้ในศาสตร์ของการเขียนยันต์ เช่น ยันต์ไทย อินเดีย จีน เขมร ลาว และแขกมุสลิม เพื่อประมวลองค์ความรู้เป็นระบบระเบียบ ไม่ควรปล่อยให้มีเกจิอาจารย์เขียนยันต์แบบมั่วๆ ทำให้สังคมไทยเข้าใจผิด และเตรียมที่จะจัดเสวนาเรื่องนี้ให้ครบทุกภาคอีกด้วย" รศ.สุกัญญากล่าว
         

ผู้สนใจร่วมรับฟังการเสวนาครั้งนี้ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ที่สถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ (มิวเซียมสยาม) ท่าเตียน.

thanks for สยามรัฐ
present by cho. khalong.com

เอ้า!! เว็บไหนจะก๊อป จะแก๊ปไปนำเสนอ กรุณาให้เครดิตเจ้าของบทความด้วยนะคะ ก๊อปไปให้เหมือนด้วย อักขระจะได้ไม่ผิดไม่เพื้ยน ไม่ใช่ก๊อปไปแล้วก็บอกว่าเอามาจากเว็บๆ หนึ่งนะจ๊ะ..

cho's talk: จัดระเบียบกระชับพื้นที่แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน...เราจะได้เป็นทายาทสืบสานพุทธาคมสักยันต์แห่งสยามประเทศด้วยความภาคภูมิใจ
ตัวเลขทั้ง 7 ในเบอร์มือถือ สามารถบ่งบอกนิสัยตัวตนของผู้ใช้ได้อย่างน่าอัศจรรย์ อย่ารอให้ชีวิตคุณดีก่อน แล้วค่อยเปลี่ยนเลขมือถือให้ดี คุณต้องเปลี่ยนเลขดีก่อน ชีวิตคุณถึงจะดี!! ตัวเลขเสียๆ มักดึงดูดพลังงานเสียๆ เข้ามาทำให้เราผิดหวังในชีวิต ตรงกันข้าม ตัวเลขดีๆ มักดึงดูดพลังงานด้านดีๆ เข้ามาในชีวิต ผนวกกับบุญกรรมเก่าของแต่ละคนว่าจะไปสุดที่ตรงไหน เลขบางตัวเหมาะกับคนหนึ่ง แต่เป็นเลขเสียกับอีกคนหนึ่ง ศาสตร์พลังงานเลขมือถือ บางส่วนอิงจากโหราศาสตร์ไทย บางส่วนมาจากการเก็บสถิติ ศาสตร์เลขมือถือต้องใช้ความเชี่ยวชาญ ในการวางตัวเลขมือถือให้เหมาะสม หลายคนเมื่อทราบผลการวิเคราะห์เบอร์มือถือของตนแล้วว่า ดี ร้าย อย่างไร แต่ยังพร้อมยอมทนใช้อยู่ ไม่รู้ทำไม เหตุผลง่ายนิดเดียว "เพราะทุกคนมีกรรมเป็นของตน" เมื่อถึงเวลา ฟ้าจะเปิดทางให้ท่านเปิดใจรับเรื่องมงคลดีๆ เข้ามาเสริมความรุ่งเรืองชีวิตท่านเอง จงจำไว้ ดวงคนเลือกเบอร์มาใช้เอง เบอร์ใครเบอร์มัน ไม่ซ้ำกัน หากท่านศรัทธาในศาสตร์พลังตัวเลขแล้ว ขออย่าลังเล หรือสงสัย อย่ารีรอทนใช้เบอร์เสียๆ เพื่อดึงดูดเรื่องร้ายๆ มารอเพื่อส่งผลแล้วค่อยเปลี่ยนเบอร์มือถือ วันนี้ คุณมีทางเลือกใช้ชีวิตแบบติดเทอร์โบได้ มัวช้าอยู่ทำไม? บริการวิเคราะห์เบอร์มือถือ วางเลขมงคล เรื่องการงาน การเงิน ความรัก โทร 09ุ ุ42282289 LINE ID: cholvibul
 เจ้าของ| cho โพสต์เมื่อ 18-8-2010 07:49 | แสดงโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขล่าสุด cho เมื่อ 18-8-2010 07:51

สกู๊ปพิเศษ: มิวเซียมสยาม-ศูนย์คติชนฯ นิมนต์พระผู้รู้สัมมนาใหญ่"เครื่องรางพุทธ" หลวงพี่น้ำฝน-อุ๊ กรุงสยาม ร่วมถก!

สยามรัฐ --- สถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติร่วมกับ ศูนย์คติชนวิทยา คณะอักษรศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดกิจกรรมโครงการสัมมนาวิชาการระดับชาติ เรื่อง "เครื่องรางของขลัง วัฒนธรรมชาวพุทธในสุวรรณภูมิ"ในวันที่ 19-20 ส.ค.53 ณ อาคารอเนกประสงค์ สถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ
         

นับเป็นเรื่องที่น่ายินดีและน่าสนับสนุนอย่างยิ่ง ถือเป็นมิติใหม่แห่งการเรียนรู้ด้านเครื่องรางของขลัง ตามแบบฉบับวัฒนธรรมชาวพุทธในสุวรรณภูมิ เป็นงานสัมมนาทางวิชาการที่คนทุกระดับชั้นจะได้ประโยชน์จากโครงการนี้อย่างแท้จริง
         

กล่าวสำหรับความเชื่อเรื่องคาถาอาคมและเครื่องรางของขลัง เป็นมรดกภูมิปัญญาของมนุษย์ยุคโบราณที่สืบทอดกันมา ผู้คนในอาณาจักรโบราณของดินแดนสุวรรณภูมิ ก็เช่นกัน ล้วนมีรากฐานความเชื่อแบบวิญญาณ นิยมผสมผสานกับความเชื่อในลัทธิมนตรยานของพุทธศาสนา และศาสนาพราหมณ์-ฮินดูเกิดเป็นความเชื่อแบบเฉพาะปรากฏอยู่ในระบบเลขยันต์ต่างๆ
         

ชาวพุทธในสุวรรณภูมิ ไม่ว่าจะเป็นจาม, มอญ, ขอม, เขมร, พม่า, ไทยใหญ่,ไทเขิน, ไทลื้อ, ลาว, มลายู และชาวสยามมีวัฒนธรรมที่เกี่ยวข้องกับเวทมนตร์คาถาและเครื่องรางของขลัง โดยเฉพาะพระภิกษุเป็นกลุ่มผู้เชี่ยวชาญเรื่องเลขยันต์มากที่สุดได้ย่อพระสูตรต่างๆ เป็นอักขระ จัดเรียงในรูปแบบตาราง หรือลายเส้น เป็นตัวเลขหรือรูปภาพ เขียน สัก หรือแกะลงบนแผ่นผ้า,ผิวหนัง, ไม้, โลหะ ฯลฯ ตลอดจนนำไปสร้างพระพิมพ์ พระพุทธรูป และวัตถุมงคลต่างๆ ถือว่าเป็นของศักดิ์สิทธิ์ มีอานุภาพในการปกป้องคุ้มครอง
         

ระบบเลขยันต์ของชาวสยามเป็นศาสตร์ชั้นสูงที่มีระบบระเบียบ มีหลักฐานแสดงวิวัฒนาการมานานหลายร้อยปี เกี่ยวข้องกับการฝึกฝนจิตตามแนวทางของพระพุทธศาสนาจนพัฒนาเป็นคัมภีร์ เพื่อใช้ในการฝึกหัดเขียนยันต์แบบต่างๆ ได้ถึง 5 เล่มได้แก่ คัมภีร์ปถมัง, คัมภีร์อิธะเจ, คัมภีร์ตรีนิสิงเห, คัมภีร์มหาราช  และคัมภีร์พุทธคุณเลขยันต์ต่างๆ ที่บรรจุอยู่ในคัมภีร์ดังกล่าวถือเป็นแม่แบบของยันต์ทั้งหลายที่ปรากฏอยู่ในสังคมไทย
         

ที่น่าแปลกใจและน่าทึ่ง คือ ความรู้ดังกล่าวมีความสอดคล้องกับทฤษฎีฟิสิกส์สมัยใหม่ ที่นักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกกำลังสนใจ นับตั้งแต่ ค.ศ.1990 เป็นต้นมา อาทิ ทฤษฎีSuper String แต่น่าเสียดายว่าองค์ความรู้หรือภูมิปัญญาไทยด้านนี้ ขาดผู้สืบทอดที่จะสามารถอธิบายได้กระจ่าง เพราะภาคปฏิบัติเป็นส่วนที่สืบทอดทางมุขปาฐะ และจำกัดอยู่เฉพาะปัจเจกบุคคลที่ยังคงมีอยู่ และมีแนวโน้มจะทวีมากขึ้น คือ การทำเลขยันต์ในฝ่ายไสยศาสตร์ ซึ่งอาศัยแรงครู? ได้แก่ครูเทพ, ครูฤๅษี, ครูอาจารย์ ฯลฯ ดลบันดาลผ่านพิธีกรรมการเซ่นสรวงบูชา และการปลุกเสกวัตถุมงคล ซึ่งในปัจจุบันเน้นหนักในเชิงพาณิชย์มากขึ้น ดังพบว่าการสักยันต์ และวัตถุมงคลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น พระเครื่อง,เทวรูป, ตะกรุด, ผ้ายันต์ ฯลฯ เป็นสินค้าด้านความเชื่อที่ได้รับความนิยมสูงสุดจากผู้บริโภค
         

ในยุคสมัยที่ความคิดแบบทุนนิยมเข้าครอบงำสังคมไทย ภูมิปัญญาของบรรพชนได้ถูกมองว่าเป็นเรื่องงมงาย ไร้สาระมอมเมา เพราะคนไทยเชื่อเรื่องเลขยันต์ในทางไสยศาสตร์มากกว่าระบบเลขยันต์ที่สัมพันธ์กับการฝึกจิต มีการอ้างถึงอิทธิปาฏิหาริย์ต่างๆ ของเครื่องรางของขลัง โดยมิได้คำนึงถึงวัตรที่ผู้รับวัตถุมงคลไปจะต้องปฏิบัติ แม้แต่วิธีการลงเลขยันต์ การเขียนตัวอักขระตัว นะ ก็ผิดเพี้ยนไป เกิดยันต์รูปแบบใหม่ ที่เน้นความสวยงามเพียงอย่างเดียวส่วนวัตถุมงคลต่างๆ ก็พิสดารมากยิ่งขึ้นตัวอย่างเช่น ชูชกอดีตชาติของพระเทวทัตก็กลายมาเป็นเครื่องรางนำโชคให้แก่ผู้ปรารถนาความสำเร็จในการขอ อันแสดงให้เห็นภูมิปัญญาที่ถดถอย ลงของคนไทย
         

ดังนั้น สถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ (มิวเซียมสยาม) จึงเห็นความจำเป็นที่จะเปิดประเด็นความรู้ด้านนี้ในเชิงวิชาการแก่สาธารณชน โดยการจัดสัมมนาระดับชาติ เรื่อง "เครื่องรางของขลังวัฒนธรรมชาวพุทธในสุวรรณภูมิ" ขึ้น โดยจัดร่วมกับ ศูนย์คติชนวิทยา คณะอักษรศาสตร์ และสถาบันไทยศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อระดมผู้รู้ในศาสตร์ดังกล่าว และเปิดโอกาสให้นักวิชาการ นิสิต นักศึกษา และบุคคลทั่วไปได้แลกเปลี่ยนความรู้ ความคิดเห็น อันจะก่อให้เกิดประโยชน์แก่สังคมในวงกว้าง  ทั้งยังเป็นการเชื่อมโยงเครือข่ายความร่วมมือระหว่างหน่วยงานอีกด้วย
         

ที่สำคัญเพื่อรวบรวมองค์ความรู้เรื่องเครื่องรางของขลังของคนไทยในมิติวิชาการเพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องในเรื่องระบบยันต์ของไทย รวมถึงเครื่องรางของขลัง เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้และสร้างความร่วมมือระหว่างนักวิชาการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
         

ได้องค์ความรู้เรื่องภูมิปัญญาด้านเครื่องรางของขลังจากผู้เชี่ยวชาญ ได้แลกเปลี่ยนความรู้และความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญและผู้เข้าร่วมสัมมนา ได้มีบทบาทกระตุ้นให้คนไทยเข้าใจ และเกิดสำนึกในการสงวนรักษาและเผยแพร่มรดกภูมิปัญญาทางด้านความเชื่อ ได้พันธมิตรทางวิชาการเพื่อร่วมกันทำงานส่งเสริมและเผยแพร่การเรียนรู้ภูมิปัญญาด้านต่างๆ ของคนไทย ได้ความรู้และข้อคิดเห็นต่างๆ ที่จะสามารถนำมาปรับใช้กับการจัดแสดงนิทรรศการ และเผยแพร่ทางเว็บไซต์ของสถาบันพิพิภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ ได้เผยแพร่หนังสือเรื่อง "ระบบเลขยันต์ : แผนผังศักดิ์สิทธิ์" ที่สถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ ได้ให้ทุนวิจัยและจัดพิมพ์ได้เผยแพร่เอกสารจากการสัมมนาให้แก่ห้องสมุดสถาบันต่างๆ อีกด้วย
         

กำหนดการสัมมนาวิชาการ วันที่ 19-20  ส.ค.53  โดย ดร.ณรงค์ชัย อัครเศรณี,อ.จุลทรรศน์ พยาฆรานนท์, นายณัฐธัญ มณีรัตน์, นายวุฒินันท์ ป้องป้อม, รศ.สุกัญญาสุจฉายา, นายศุภกิจ สิงหบุตร ผศ.ดร.กังวลคัชชิมา,  อ.เศรษฐพงษ์ จงสงวน, นายธีรนันท์ช่วงพิชิต, นายสวิง บุญเจิม, นายอัตถนิชโภคทรัพย์, พระครูสิทธิสังวร วัดราชสิทธาราม,พระครูไพบูลย์รัตนากร วัดหงส์รัตนาราม,นายเชษฐา ฉายาสถิต,  นายเอก นาครทรรพ,อ.เทวัญ ฉวางวงศานุกูล, อ.อนันต์ นันทกูล,อ.ประคอง รุ่นเจริญ, พระครูปลัดสิทธิวัฒน์(หลวงพี่น้ำฝน) วัดไผ่ล้อม, วัชรพงศ์ ระดมสิทธิพัฒน์ (อุ๊ กรุงสยาม) และ อ.ภุชชงค์จันทวิช ผู้ดำเนินรายการ ได้แก่ อ.สมฤทธิ์ลือชัย
notejazzpianist โพสต์เมื่อ 18-8-2010 10:30 | แสดงโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณท่านเจ้าเมืองครับ สำหรับข่าวสารดีๆบทความดีๆมีประโยชน์มากๆครับ
suysakul โพสต์เมื่อ 18-8-2010 11:10 | แสดงโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณพี่โชวคนสวยครับ ที่นำข่าวสารดี ๆ มาฝากทุกคน
pocko โพสต์เมื่อ 18-8-2010 13:51 | แสดงโพสต์ทั้งหมด
Thank you u u u u
DarkNight โพสต์เมื่อ 18-8-2010 14:11 | แสดงโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณครับท่านเจ้าเมืองครับ  สำหรับข่าวสารที่มอบให้ครับ
ภูผา โพสต์เมื่อ 21-8-2010 01:26 | แสดงโพสต์ทั้งหมด
ได้ข่าวสารดีๆจากที่นี้มากๆขอบคุณครับ
dear168 โพสต์เมื่อ 21-8-2010 10:46 | แสดงโพสต์ทั้งหมด
เคยเห็นบางอาจารย์ใช้เครื่องสัก  บอกว่ามาเสกขลังเหมือนกัน  ผมงงเลย
blesman_u โพสต์เมื่อ 21-8-2010 11:04 | แสดงโพสต์ทั้งหมด
อาจารย์บางคนสักก็ได้ ปลุกเสกเครื่องรางก็ได้  ที่สำคัญปลุกเสกเป็นมันซะทุกอย่าง
อย่างงี้เค้าเรียกคนหรือเทพครับเนี่ย   อาจารย์แมวเหมียว  เข็ม.......
ลำปาง โพสต์เมื่อ 22-8-2010 16:17 | แสดงโพสต์ทั้งหมด
นี้ซิ ได้ความรู้ของแท้ ขอบคุณท่านเจ้าเมือง ดีครับ บทความดี เตือนสติ
ถ้าผู้สักมีความรู้ด้วยน่าจะดี ถ้าอ่านอักขระออกจะได้ทราบว่าตัวสักว่าอย่างไรนะครับ
ขอบคุณท่านเจ้าเมือง ที่นำมาลง
nobeeta โพสต์เมื่อ 25-8-2010 13:37 | แสดงโพสต์ทั้งหมด
น่าคิดนะครับครับ บางอาจารย์นำอักขระแต่ละตัวมาจับแพะจนแกะปนแปกันหมด บางอาจารย์สร้างยันต์ขึ้นมาใหม่โดยคิดขึ้นมาเองแต่ถ้าอาจารย์นั้นได้เรียนวิชามา มีความรู้เกี่ยวกับอักขระภาษาขอมอย่างแตกฉานก็ไม่นาจะเป็นอะไร แต่ถ้าเป็นพวกมั่วนิ่มนี่แหละน่ากลัวครับ แทนที่สักไปแล้วจะเกิดประโยชน์ ดันเกิดโทษเพราะอักขระวิบัต เจ็บตัวเสียตังค์แล้วยังเกิดโทษกับตัวเองอีก ก่อนจะสักที่ใหนดูปูมหลังอาจารย์แต่ละท่านก่อนก็แล้วกันว่าได้ศึกษาร่ำเรียนมาอย่างที่ได้โฆษณาหรือไม่ มีหลักฐานที่พอให้น่าเชื่อถือหรือไม่ จะได้ไม่เจ็บตัวฟรีครับ
ขอบคุณมากครับท่านเจ้าเมืองสำหรับข่าวสาร  ไม่ได้แสดงความเห็นเสียนานแต่ก็เข้ามาดูอยู่เรื่อยๆครับ
อุ้ม โพสต์เมื่อ 26-8-2010 09:27 | แสดงโพสต์ทั้งหมด
บางสำนักอาจารย์สักยันต์หนีไป (เพราะว่าทนไม่ไหวที่เห็นพวกมันหลอกลวงคนที่มาหาตามโฆษณา) มันกลัวเสียรายได้ มันก็โปรโมทเด็กขึงหนัง เด็กที่ลอกลายสัก เด็กเดินของ มาเป็นอาจารย์สักยันต์เลย เผลอๆมันก็จะเอาคนที่ดูแลวัตถุมงคลมาเป็นอาจารย์สักด้วยเลย แกล้งท่องคาถางึมงึมๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ให้ดูขลังๆเข้าไว้ บางทีทำเป็นไปเมืองนอกไปสิงคโปร์แล้วก็เอาคนที่จัดการเงินๆทองๆในสำนักมันมาครอบพ่อแก่ให้กับคนที่เมืองนอกแล้วก็บอกว่าเข้มขลังเสน่ห์ๆๆๆๆ บางสำนักล่อลูกศิษย์ที่มากราบ ล่อเสร็จบางทีก็โยนต่อให้ศิษย์ใกล้ชิด หรืออาจารย์ก็เอาเองแต่ทำซุ่มๆไว้ บางทีศิษย์ใกล้ชิดก็ล่อเองก่อนพอเลิกก็ให้อาจารย์ พอคนนั้นเป็นเมียอาจารย์แล้วก็เลยข่มคนอื่นกันใหญ่ศิษย์ผู้หญิงที่ไปก็ไปหึงเค้านอกหน้าเพราะก็อยากเป็นใหญ่เป็นเจ้าสำนักคนต่อไปไง ปวดหัวครับ เดี่ยวนี้ทุกที่มีสักหมดครับ งงฉิบหายครับว่าเรียนมาตั้งแต่เมือไหร่ จัดระเบียนขึ้นทะเบียนกันเป็นเรื่องเป็นราวก็ดีครับผมสนับสนุน อยากเปลี่ยนควายให้เป็นคนจะได้ไม่ถูกหลอกครับ

ขอบคุณมากครับเจ้าเมือง หาข่าวแต่ละอย่างระดับชาติเลยนะเนี่ย ติดตามเรื่อยๆครับ ถ้ามีก็จะเอามาลงให้ด้วยครับเพราะผมก็ไม่อยากให้ใครถูกหลอกเป็นควายครับ
oat_krub โพสต์เมื่อ 23-9-2010 19:00 | แสดงโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณครับพี่ cho ที่นำเรื่องดีดีมาให้รับรู้กัน
คุณต้องเข้าสู่ระบบก่อนจึงจะสามารถตอบกลับโพสต์นี้ได้ เข้าสู่ระบบ | สมัครเป็นชาวเมืองเสน่ห์กาหลง

รายละเอียดเครดิต

ปิด

เว็บมาสเตอร์แนะนำย้อนกลับ /1 ถัดไป

รายชื่อผู้กระทำผิด|Archiver|Mobile|เมืองเสน่ห์กาหลง (Khalong Charming Town)

GMT+7, 19-5-2024 17:12 , Processed in 0.374346 second(s), 8 queries , File On.

Powered by Discuz! X3.4

© 2001-2017 Comsenz Inc.

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้