เมืองเสน่ห์กาหลง มหาเสน่ห์ มหาเมตตา มหานิยม
Khalong Amulet
4909
29
ซ่อนแถบด้านข้าง

ประวัติความเป็นมาของเครื่องรางต่างๆ

[คัดลอกลิงก์]
เชน โพสต์เมื่อ 20-7-2010 21:29 | แสดงโพสต์ทั้งหมด |โหมดอ่าน
แก้ไขล่าสุด เชน เมื่อ 20-7-2010 21:36

ขอบคุณท่าน อ.ไตรลักษณ์ ที่ได้ถ่ายทอดวิชาความรู้ให้แก่ชนรุ่นหลังเป็นวิทยาทาน
เริ่มกันที่ ประวัติความเป็นมาของประคํา 108 เม็ดครับ ในราวปีพุทธศักราช 225 สงครามทางศาสนาครั้งใหญ่ได้อุบัติขึ้น ในแคว้นกลินตะ พระเจ้าอโศกมหาราช ได้สั่งให้อพยพ พระสงฆ์ ชาวบ้าน นักปราชญ์ ที่นับถือพระพุทธศาสนา ลงเรือหนีภัยสงครามมาสู่ดินแดนสุวรรณภูมิ และได้มอบหมายให้พระ2 รูป คือ พระโสณะเถระ กับพระอุตตระเถระ นําพระบรมสารีริกธาตุขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มาประดิษฐานในดินแดนอันศักดิ์สิทธิ์ เช่น ไทย พม่า มอญ เขมร ซึ่งถือว่าเป็นดินแดนแห่งสุวรรณภูมิ

จากการอพยพครั้งใหญ่ เพื่อหนีภัยสงครามทางศาสนาในอินเดีย พระเถระทั้งสองรูป ได้นําเอาพระบรมสารีริกธาตุติดตัวมาด้วย ตามคําบัญชาของพระเจ้าอโศมหาราช มายังดินแดนสุวรรณภูมิ สองพระเถระได้ธุดงค์เดินผ่านมายังเมือง สะเทิ้มของมอญ ที่บริเวณเขาสุทัศน์คีรี จนกระทั่งพระเถระทั้งสองรูป ได้มาพบกับ ฤษี ทั้ง3 องค์ คือพระฤษีคุปตะ ฤษีจุลละ ฤษีเทวิละ ฝ่ายฤษีทั้ง 3 เห็นความสํารวม กิริยามารยาทอันงาม ของพระเถระทั้งสองรูป ก็บังเกิดความเลื่อมใส จึงเข้าไปกราบ พูดคุยซักถามว่า ท่านเป็นศิษย์ของผู้ใด ใครคือพระศาสดาของท่านหรือ พระเถระทั้งสองจึงตอบว่า พระสมณโคดมศากยะบุตรอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า พระพุทธองค์คือ ศาสดาของพวกเราทั้งสอง เมื่อได้ฟังดังนั้น ฤษีทั้งสามก็ขอให้เล่าถึงคําสอนของพระพุทธองค์ให้ฟังหน่อย เมื่อได้ฟังจนจบ ฤษีทั้งสามก็บังเกิดความศรัทธาเลื่อมใส ถึงกับอุทานว่า "โอ้ พระคุณรัตนตรัยได้บังเกิดขึ้นในโลกแล้ว" แต่อนิจจา น่าเสียดายเหลือเกิน ที่พวกเราฤษีทั้งสามไม่มีโอกาศได้ พบพระพุทธองค์ เพราะพระองค์ท่านได้เสด็จดับขันธ์ปรินิพพานไปแล้ว ถึง225 ปี ช่างน่าเสียดายเหลือเกิน บุญพวกเราไม่เท่ากับพระคุณเจ้าทั้งสอง

จากนั้นฤษีทั้งสามก็ถามพระเถระทั้งสองต่อว่า พระรัตนตรัยทั้งสามมีคุณเท่าไหร่ และจะสาธยายอย่างไร พระเถระทั้งสองก็สาธยายให้ฤษีทั้งสามฟังดังนี้ คุณพระพุทธเจ้า มีจํานวน 56 ตัว โดยสวดบทพุทธคุณ(อิติปิโส) คุณพระธรรมเจ้ามี 38 ตัว โดยบทสวดพระธรรมคุณ (สวากขาโต ) คุณพระสังฆเจ้ามี 14 ตัว โดยสวดบท พระสังฆคุณ (สุปฏิปันโน ) เมื่อรวมกันแล้วจะได้ คุณพระรัตนะตรัย= 108

พระฤษีทั้งสามก็ถามต่ออีกว่า " กัปป์ " ( 1 ภัทรกัปป์จะมี พระพุทธเจ้าเกิดขึ้นถึง 5 พระองค์ ) ของพวกเราในปัจจุบันนี้ ยังจะมีพระพุทธเจ้าเกิดขึ้นใหม่อีกหรือไม่ พระเถระทั้งสอง จึงตอบว่าในภัทรกัปป์นี้ พระสมณโคดมพระพุทธเจ้า องค์ปัจจุบัน เป็นองค์ที่ 4 และจะมีพระพุทธเจ้าอีกองค์หนึ่ง บังเกิดขึ้นตามมาในกาลข้างหน้า คือ พระศรีอริยะเมตตรัย เมื่อได้ฟังดังนั้น ฤษีทั้งสามอยากรู้ว่า พระพุทธเจ้า 5 พระองค์นี้ มีนามใดบ้าง

คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1รัก +3 ย่อ เหตุผล
cho + 3

ดูบันทึกคะแนน

ตัวเลขทั้ง 7 ในเบอร์มือถือ สามารถบ่งบอกนิสัยตัวตนของผู้ใช้ได้อย่างน่าอัศจรรย์ อย่ารอให้ชีวิตคุณดีก่อน แล้วค่อยเปลี่ยนเลขมือถือให้ดี คุณต้องเปลี่ยนเลขดีก่อน ชีวิตคุณถึงจะดี!! ตัวเลขเสียๆ มักดึงดูดพลังงานเสียๆ เข้ามาทำให้เราผิดหวังในชีวิต ตรงกันข้าม ตัวเลขดีๆ มักดึงดูดพลังงานด้านดีๆ เข้ามาในชีวิต ผนวกกับบุญกรรมเก่าของแต่ละคนว่าจะไปสุดที่ตรงไหน เลขบางตัวเหมาะกับคนหนึ่ง แต่เป็นเลขเสียกับอีกคนหนึ่ง ศาสตร์พลังงานเลขมือถือ บางส่วนอิงจากโหราศาสตร์ไทย บางส่วนมาจากการเก็บสถิติ ศาสตร์เลขมือถือต้องใช้ความเชี่ยวชาญ ในการวางตัวเลขมือถือให้เหมาะสม หลายคนเมื่อทราบผลการวิเคราะห์เบอร์มือถือของตนแล้วว่า ดี ร้าย อย่างไร แต่ยังพร้อมยอมทนใช้อยู่ ไม่รู้ทำไม เหตุผลง่ายนิดเดียว "เพราะทุกคนมีกรรมเป็นของตน" เมื่อถึงเวลา ฟ้าจะเปิดทางให้ท่านเปิดใจรับเรื่องมงคลดีๆ เข้ามาเสริมความรุ่งเรืองชีวิตท่านเอง จงจำไว้ ดวงคนเลือกเบอร์มาใช้เอง เบอร์ใครเบอร์มัน ไม่ซ้ำกัน หากท่านศรัทธาในศาสตร์พลังตัวเลขแล้ว ขออย่าลังเล หรือสงสัย อย่ารีรอทนใช้เบอร์เสียๆ เพื่อดึงดูดเรื่องร้ายๆ มารอเพื่อส่งผลแล้วค่อยเปลี่ยนเบอร์มือถือ วันนี้ คุณมีทางเลือกใช้ชีวิตแบบติดเทอร์โบได้ มัวช้าอยู่ทำไม? บริการวิเคราะห์เบอร์มือถือ วางเลขมงคล เรื่องการงาน การเงิน ความรัก โทร 09ุ ุ42282289 LINE ID: cholvibul
 เจ้าของ| เชน โพสต์เมื่อ 20-7-2010 21:30 | แสดงโพสต์ทั้งหมด
มีต่อนะครับแต่หิวๆๆๆ เดี๋ยวมาศึกษากันต่อไป
 เจ้าของ| เชน โพสต์เมื่อ 20-7-2010 21:36 | แสดงโพสต์ทั้งหมด
พระเถระทั้งสองจึงได้แจ้งให้ ฤษีทั้งสามทราบนามของพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ เป็นคาถา ดังนี้ 1 นะ กาโร กุกุสันโธ 2 โม กาโร โกนาคะมะโน 3 พุท กาโร กัสสะโปพุทโธ 4 ธา กาโร ศากยะปุงคะโว 5 ยะ กาโร ศรีอริยะเมตตรัยโย ปัญจพุทธานะมามิหัง ( รวมเป็น5 ชื่อ ชื่อพระพุทธเจ้าเป็นคําหลัง คําหน้าเป็นคาถาย่อ ใช้แทนนามพระพุทธเจ้า หรือที่เรารู้จักกันในนาม คาถา นะโมพุทธายะ หรือพระเจ้า 5 พระองค์ครับ

เมื่อพระเถระทั้งสอง ได้สนทนาธรรมกับฤษีทั้งสาม จนเป็นที่พอใจแล้ว จึงกล่าวคําอําลาต่อฤษี ออกเดินธุดงค์ไปยังดินแดนสุวรรณภูมิต่อ เพื่อเผยแพร่พระพุทธศาสนา เมื่อพระเถระจากไปแล้ว ฤษีทั้งสามก็ปรึกษาหารือกันว่า แหมเป็นบุญของพวกเรานะ ที่ได้ฟังธรรมจนเกิดความเลื่อมใส ในพระรัตนะตรัย เออเราจะทําอย่างไรกันดี จึงจะหาของเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของเรา ให้นึกถึงคุณพระรัตนะตรัยอยู่เสมอ จนในที่สุดฤษีทั้งสามก็นึกขึ้นได้ว่า คุณของพระรัตนะตรัยมี 108 พวกเราควรจะทําประคําให้มีจํานวน 108 เม็ด เท่ากับคุณพระรัตนะตรัยดีกว่า แล้วทําลูกยอดเพิ่มขึ้นมาอีกสามลูก เพื่อแทน พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
ปกติฤษีจะนับถือพระพรหม ( ลัทธิฮินดู หรือพรามหณ์ ) จะสวดด้วย โอม คือ มะอะอุ ที่นี้ฤษีก็ปรึกษากันว่าขนาด ภาวนาสวด โอมยังขลังขนาดนี้ ถ้าพวกเราสวดนามพระพุทธเจ้าก็จะไม่ยิ่งขลังไปใหญ่หรือ เอาอย่างนี้ดีกว่า เราเอาคําภาวนามารวมกันเลย ทั้งพรามหณ์และพุทธ ว่าเดินหน้า และถอยหลัง ต้องขลังสุดยอดแน่ๆ เป็นคาถาดังนี้ นะโมพุทธายะ ยะธาพุทโมนะ มะอะอุ อุอะมะ ครับ นับตั้งแต่นั้นมาก็แพร่หลาย เข้ามาถึงเมืองไทย ถ้าใครจะภาวนาประคําก็ขอให้ใช้บทนี้นะครับ ว่าคาถา 1 จบ ให้นับประคํา 1 เม็ด ไปจนครบ 108 จบ ได้อานิสงฆ์มาก และจะทําให้เกิดสมาธิแก่กล้าด้วยครับ หลวงปู่วัดพระพุทธบาทตากผ้า สมัยเมื่อท่านยังอยู่ท่านก็ใช้บทนี้ ภาวนานับ ประคํา จนจิตแก่กล้าครับผม/ จบเรื่องประคํา

ต่อไปเป็นเรื่องกะลาตาเดียวครับ
 เจ้าของ| เชน โพสต์เมื่อ 20-7-2010 21:39 | แสดงโพสต์ทั้งหมด
ไม่รู้จะมีท่านใดสนใจเรื่องประวัติความเป็นมาของเครื่องรางต่างๆ หรือไม่ ผมขอหยุดเท่านี้ก่อนนะครับ
เกรงว่าจะไม่มีท่านใดสนใจที่จะอ่านหรือศึกษา ขอบคุณครับ
notejazzpianist โพสต์เมื่อ 21-7-2010 00:12 | แสดงโพสต์ทั้งหมด
เป็นความรู้ที่ดีมากเลยครับ ขอบคุณมากที่นำมาให้ศึกษากันนะครับ
goldenflawer โพสต์เมื่อ 21-7-2010 00:27 | แสดงโพสต์ทั้งหมด
แหมๆอย่าพึ่งใจน้อยซิคับ มีของดีๆมาแบ่งปันใครเล่าจะไม่สนใจละคับ
ติดตามข้อมูลอยู่นะคับปูเสื่อรออ่านอยู่คับ
 เจ้าของ| เชน โพสต์เมื่อ 21-7-2010 00:39 | แสดงโพสต์ทั้งหมด
ปูเสื่อรอป่านนี้คงหลับไปแล้ววววว ต่อเลยละกันครับ
 เจ้าของ| เชน โพสต์เมื่อ 21-7-2010 00:39 | แสดงโพสต์ทั้งหมด
ครั้งนี้เรามาว่ากันถึงเรื่อง กะลาตาเดียว และกะลามหาอุตม์ ซึ่งจัดเป็นของอาถรรพ์ หรือที่เรียกว่า ทนสิทธิ์ มีความศักดิ์สิทธิ์ และขลังในตัวเองตามธรรมชาติ ยิ่งถ้าได้นําไปให้พระเกจิปลุกเสกเพิ่มพลังก็ยิ่งขลังใหญ่ บางอาจารย์ก็นําไปแกะเป็นรูปราหูเป็นชิ้นๆแล้วลงยันต์ หรืออาจจะแกะทั้งลูก ใส่พานไว้บูชาบนหิ้งพระ ที่โด่งดังในอดีตก็ของหลวงพ่อน้อย วัดศรีษะทอง นครปฐม ดีทางโชคลาภ คุ้มภัย กันอาถรรพ์ ภูตผีปิศาจ ครับผม
 เจ้าของ| เชน โพสต์เมื่อ 21-7-2010 00:40 | แสดงโพสต์ทั้งหมด
กะลามะพร้าวที่เราเห็นอยู่บ่อยๆ และไม่ค่อยสนใจ อาจจะกลายเป็นของดีที่คุณมองข้ามไป กะลานั้นมีหลายชนิด เช่น 1 กะลาธรรมดาทั่วๆไป จะมีรูอยู่ 3 รู เป็นรูงอกหนึ่งรู และเป็นตาอีก 2 รู/ 2/ กะลาที่มีแต่รูงอกไม่มีรูตา เรียกว่า กะลาตาบอด/ 3/ กะลา 3 ตา 4/ กะลาตาเดียว ทั้งลูกจะมีรูงอก 1 รู และตา 1 รู จัดเป็นของอาถรรพ์ศักดิ์สิทธิ์ นิยมนํามาทําเป็นวัตถุมงคล( ซึ่งหาพบได้ยาก แต่ผมมีวิธีหา ) 4/ กะลามหาอุตม์ จะไม่มีรูงอก ไม่มีรูตา จะทึบหมดทั้งลูก จัดเป็นสุดยอดที่สุด ขลังที่สุด และหายากที่สุด ต้องขึ้นอยู่กับวาสนาบารมีแล้วละครับ ในบรรดากะลาทั้งปวงที่กล่าวมาครับ
 เจ้าของ| เชน โพสต์เมื่อ 21-7-2010 00:40 | แสดงโพสต์ทั้งหมด
ก่อนอื่นขอฝากข้อคิด เกี่ยวกับ พระราหู นะครับ ถ้าดวงใครถูกพระราหูเข้าแทรกจะแย่ครับ มีแต่ปัญหาเดือดร้อน บางครั้งอาจหมดเนื้อหมดตัวเลย และอีกอย่างท่านที่เกิด วันศุกร์ พระราหูเป็นกาลกิณี ไม่ถูกกับท่านครับ ตามหลักมหาทักษา คือ บริวาร อายุ เดช ศรี มูละ อุตสาหะ มนตรี กาลกิณี/ หลายท่านจึงนิยมไปไหว้พระราหู เช่นถวายของดํา 8 อย่าง ถามว่าได้ผลหรือไม่ เท่าที่เห็นก็ได้บ้าง ไม่ได้บ้าง ว่ากันไป อ้าว! แล้วจะทําอย่างไงดี ผมกลัวครับ หนูกลัวค่ะ ถ้าจะบอกไม่ทราบก็ใจดําไป ไม่รักกันจริง/ เอาอย่างนี้ดีกว่า เท่าที่ผมเคยแก้ไขเรื่องพระราหูเข้าแทรก และได้ผลเป็นที่พอใจ คือให้คนๆนั้น ซื้อร่มและรองเท้าสีดํา ถวายสังฆทานพร้อมกับอาหารคาวหวาน (อาหารไม่ต้องดําก็ได้ ไม่งั้นคุณจะไปซื้อ เหล้าเซี่ยงชุนสีดํา ไข่เหยี่ยวม้า ขนมเปียกปูนสีดํา และอาจจะทาถังสังฆทานสีดําเข้าไปอีก สีไม่แห้งพระรับจับติดมือ แทนที่จะได้บุญกับเป็นบาปครับ ) ให้ถวายสังฆทานในวันพุธ แล้วก็ปิดทองพระปางเลไลยย์ (ปางที่มีรูปพระพุทธนั่งห้อยขา แล้วข้างล่างมีลิง กับ ช้าง ที่สุพรรณมีวัดป่าเลไลยย์ องค์ใหญ่มาก ) ให้ปิดทองคําเปลว 8 แผ่นที่องค์พระตรงไหนก็ได้ แล้วอธิษฐานแต่สิ่งที่ดีๆ เพราะพระปางเลไลยย์ เป็นพระประจําวันเกิดคนวันพุธกลางคืน แก้ทางกันได้ และเลข 8 คือกําลังพระราหู
 เจ้าของ| เชน โพสต์เมื่อ 21-7-2010 00:41 | แสดงโพสต์ทั้งหมด
คุณทราบหรือไม่? พระราหูกลัวใครครับ เฉลยกลัวพระนารายณ์ เพราะมีเรื่องเล่าไว้ว่า เทพสวรรค์ กับยักษ์ ช่วยกันกวนนํ้าอํามฤต ( ใครได้กินนํ้านี้แล้ว เป็นอมตะไม่ตาย ) เมื่อกวนเสร็จพระราหูซึ่งจ้องอยู่แล้ว โฉบเข้าไปกินนํ้าอํามฤต ซึ่งพระอาทิตย์ กับพระจันทร์ เห็นเข้าจึงร้องโวยวายต่อว่า ไม่ช่วยแล้วยังมาขโมยกินอีก พระราหูได้ยินดังนั้น โกรธครับ ซึ่งท่านมีฤทธิ์มากไม่มีใครสู้ได้ ก็ไล่จับพระอาทิตย์และพระจันทร์ ซึ่งทั้งสองสู้ไม่ได้ก็เหาะหนีไป จนกระทั่ง พระนารายณ์มาพบเข้า ทั้งสองก็ฟ้องพระนารายณ์ว่า พระราหูขโมยนํ้าอํามฤตกิน พระนารายณ์ได้ฟังดังนั้น ก็โกรธพระราหู ( พาหนะของพระนารายณ์คือครุฑ ) ฝ่ายพระราหูเหาะตามมาเต็มกําลัง พอเห็นพระนารายณ์ก็ตกใจ เบรกตัวโกร่ง พระนารายณ์จึงขว้างจักรปราบมารออกไป ตัดตัวพระราหูขาดเป็นสองท่อน ( ซึ่งตัวเต็มของพระราหู ท่อนบนเป็นกึ่งเทพกึ่งยักษ์ ท่อนล่างเป็นหางงู ) ไม่ตายครับ พระราหูกินนํ้าศักดิ์สิทธิ์ ได้แต่ตัวขาดต่อไม่ได้ ส่วนท่อนหางไปเกิดเป็นพระเกตุ พระราหูแค้น พระอาทิตย์กับพระจันทร์มากที่ฟ้องพระนารายณ์ ก่อนที่จะหนี พระราหูกล่าวคําอาฆาต พระอาทิตย์และพระจันทร์ว่า เออ! อย่าให้ข้าเจอเมื่อไหร่ จะจับกินทั้งคู่ คุณเคยสังเกตุไหม วันที่สุริยุบประราคา หรือจันทรยุบประราคา คืนนั้นพระจันทร์จะมีเพียงครึ่งดวง แล้วค่อยๆหายไปในก้อนเมฆ จนมืดมิด คนสมัยก่อนมีความเชื่อว่า พระจันทร์ถูก พระราหูอมหรือกําลังจะกิน จึงบอกให้ลูกหลานเคาะปีปบ้าง กะละมังบ้าง จุดประทัด ยิงปืนบ้าง เพื่อให้พระราหูตกใจ ปล่อยพระจันทร์ ตอนเด็กผมได้ยินเป็นประจํา ถ้าคืนไหนมีเสียงเคาะปี๊ป ยิงปืนจะรู้ทันทีว่า เป็นวันอะไร แต่เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยได้ยินเลย ครับ
 เจ้าของ| เชน โพสต์เมื่อ 21-7-2010 00:41 | แสดงโพสต์ทั้งหมด
ทีนี้ท่านก็คงรู้แล้วว่า พระราหู กลัวพระนารายณ์ ใครที่ถูกพระราหูแทรก หรือคนเกิดวันศุกร์ ก็ให้ทําอย่างที่ผมแนะนํามาแล้วข้างต้น แต่ที่สําคัญต้องหาวัตถุมงคล เป็นรูปพระนารายณ์ยืนเหยียบบนพระราหู มาบูชาหรือพก จะเป็นเหรียญหรือผ้ายันต์ก็ได้ เคยแนะนําคนที่ดวงตกให้ไปหามาพกหรือคล้องคอ หรือบูชา ปรากฏว่าไม่ถึงเดือน ชีวิตผลิกผลันฟื้นมา จากร้ายกลายเป็นดีเลยครับ หยิบจับอะไรเป็นเงินเป็นทองไปหมด จากเคยที่จะหมดเนื้อหมดตัว แต่ปัญหาคือ วัตถุมงคลชนิดนี้หายากหน่อย ไม่ค่อยมีวัดไหนสร้าง ตอนนี้ที่เห็นสร้างก็คือ วัดไตรมิตร ( ที่มีพระพุทธรูปทองคําองค์ใหญ่ ) กรุงเทพ วัดอยู่ใกล้ๆกับหัวลําโพงครับ ไม่ได้เชียร์หรือโฆษณานะครับ เพราะหลายท่านอยากรู้ เลยบอกให้ ไม่งั้นเดี๋ยวเมลล์มาถามกันแหลก ว่าจะหาได้ที่ไหน หรือคุณไตรลักษณ์ช่วยหาให้ที ครับ ก็เป็นความเชื่อเฉพาะบุคคลนะครับ โปรดใช้วิจารณญาณ ของแต่ละท่านเอง ครับผม
 เจ้าของ| เชน โพสต์เมื่อ 21-7-2010 00:41 | แสดงโพสต์ทั้งหมด
มาว่ากันถึงเรื่องกะลาต่อนะครับ/ กะลาตาเดียวคนสมัยก่อนมีความเชื่อกันว่า มีดีในตัวเองตามธรรมชาติ คุณสมบัติของกะลาตาเดียว ที่ตามตํารากล่าวไว้ ดังนี้ ประการที่1 ใช้สําหรับตักข้าวสารใส่หม้อเวลาหุงรับประทาน หากว่าประกอบอาชีพธุรกิจ จะทําให้เกิดโภคทรัพย์เพิ่มพูนบริบูรณ์ หากเป็นข้าราชการจะเจริญด้วยยศฐาบรรดาศักดิ์ ประการที่2 ใช้ทําเป็นเครื่องรางของขลัง เพราะกะลามีดีในตัว ประการที่3 ใช้สําหรับ ป้องกันเสนียดจัญไร ภูตผีปิศาจ ประการที่4 บูชาเป็นประจําจะทําให้เกิดโชคลาภอยู่เสมอ ประการที่5 ใช้เป็นเครื่องมือสําหรับ หมอโบราญ ในการตัดต้อที่ตาของคนป่วยให้หายขาดได้ ครับ
 เจ้าของ| เชน โพสต์เมื่อ 21-7-2010 00:42 | แสดงโพสต์ทั้งหมด
ผมรู้ว่าหลายท่าน เมื่อรู้ถึงความศักดิ์สิทธิ์แล้ว อยากจะได้ครอบครอง ทําไงดี ครับ เมื่อรู้แล้วต้องเงียบ อย่าไปเที่ยวคุยให้คนอื่นรู้ เพราะถ้าคนอื่นรู้ ก็ต้องอยากได้จะหาแข่งกับเรา ทําให้หายากออกไปอีก บางทีวาสนาคนอื่นดีกว่าเราพบก่อน เราเป็นคนบอกแท้ๆกลับหาไม่ได้ มันน่าน้อยใจ ถ้ามีใครเสนอขาย คุณดูให้ดีเสียก่อนว่าใช่หรือเปล่า เห็นถูกหลอกมาหลายราย อันดับแรกคุณต้องดูเป็นว่ากะลาตาเดียว มีรูงอก 1รู ที่เรียกว่าแจว และตา 1 รู ถ้าไม่เข้าใจไปปรึกษากับ โรงมะพร้าว ที่เขารับจ้างปลอกเปลือกมะพร้าว ว่ารูแจว และรูตา มะพร้าวเป็นอย่างไง ให้เขาสอน และถือโอกาสสั่งเขาไว้เลยว่า ถ้าเจอกะลาตาเดียว ช่วยเก็บไว้ให้ด้วย ว่าส่งเดชไปจะเอาไปทํายา ขืนบอกสรรพคุณให้เขาฟัง เดี๋ยวเขาก็หวงอีก แต่ผมจะให้เขาลูกละ ร้อยบาทครับ บางครั้งเจอคนใจดี เขาเอาแค่20 บาท แต่ข้างนอกหรือแผงพระขายลูกเป็นพันๆ คุณพยายามสั่งโรงมะพร้าวไว้หลายๆโรง เพราะปลอกมะพร้าวนับพันๆลูกจะเจอสักลูกยากแท้ ขึ้นอยู่กับวาสนาด้วยครับ สําหรับผมใช้วิธีหลังสวดมนต์ นั่งสมาธิเสร็จ ผมจะอธิษฐานขอต่อ องค์เทพเทวาให้ช่วย ดลบันดาลให้พบในราคาถูกด้วย อธิษฐานทุกวัน จนได้มาครอบครองจนได้ ครับผม
 เจ้าของ| เชน โพสต์เมื่อ 21-7-2010 00:42 | แสดงโพสต์ทั้งหมด
เมื่อได้กะลาตาเดียวมาแล้ว ก็นําไปให้พระเก่งๆเขียนยันต์ปลุกเสก หรือจะไปจ้างเขาแกะเป็นราหูก็ตามใจ ทั้งลูกหรือเป็นชิ้นก็ได้ตามใจ แต่ผมชอบแกะเป็นนางกวัก ให้แม่ค้าขายของดีจริงๆ ที่เห็นแกะเก่งๆก็หมู่บ้าน อําเภอพยุหะคีรี นครสวรรค์ แต่ค่าแกะแพงมาก คุยต่อรองกันเอาเอง อีกที่ก็หมู่บ้าน แถววัด ศรีษะทอง อยู่ในตัวเมืองนครปฐม ต้นกําเนิดการแกะกะลาตาเดียว หรือจะไปจ้างช่างศิลป์ที่แกะสลักเก่งๆก็ได้
คุณต้องเข้าสู่ระบบก่อนจึงจะสามารถตอบกลับโพสต์นี้ได้ เข้าสู่ระบบ | สมัครเป็นชาวเมืองเสน่ห์กาหลง

รายละเอียดเครดิต

ปิด

เว็บมาสเตอร์แนะนำย้อนกลับ /1 ถัดไป

รายชื่อผู้กระทำผิด|Archiver|Mobile|เมืองเสน่ห์กาหลง (Khalong Charming Town)

GMT+7, 3-5-2024 05:27 , Processed in 0.136253 second(s), 7 queries , File On.

Powered by Discuz! X3.4

© 2001-2017 Comsenz Inc.

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้