|
แก้ไขล่าสุด dark เมื่อ 2-7-2010 23:37
คนเล่นสายนี้ต้องมีวุฒิภาวะ และความรับผิดชอบพอสมควร ...
ต้นฉบับโพสโดย blueboat เมื่อ 1-7-2010 23:39
- ขอสนับสนุนอีกแรงนะครับ ว่าทั้งของหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่และอาจารย์เปล่ง บุญยืนนั้น เด็ดขาดทั้งคู่ เพราะในชีวิตนี้ผมก็เคยได้จับสิ่งที่เรียกว่าเป็นมวลสารของท่านเกจิดังทั้งคู่ ก็คือ เคยได้รับผงพรายกุมารแท้ ๆ จากรุ่นน้องท่านหนึ่งซึ่งนับถือกันอยู่ โดยรุ่นน้องท่านนี้เมื่อตอนสมัยที่บวชเรียนเป็นเณรได้ออกตระเวนเสาะแสวงหาวิชาและครูบาอาจารย์เก่ง ๆ จากหลากหลายแห่งทั่วประเทศ จึงได้รับผงพรายกุมารมาจากเจ้าอาวาสวัดละหารไร่มาจำนวนหนึ่ง (ถ้าข้อมูลบางประการผิดพลาดไป ก็ต้องขออภัยไว้ล่วงหน้านะครับ เพราะเป็นข้อมูลจากความจำผ่านมาหลายปีแล้ว) โดยท่านเจ้าอาวาสท่านนี้บอกว่า ได้รับเป็นผงพรายจากหลวงปู่ทิมมานิดนึง แล้วท่านก็เอามาบดผสมกับลูกอมผงพรายกุมารของหลวงปู่ทิม ผสมมวลสารอาถรรพ์อื่น ๆ อีกหลายอย่าง ซึ่งผมคิดว่าน่าจะเป็นสูตรเดียวกับที่หลวงปู่สาคร วัดหนองกรับท่านก็ทำแบบนี้เช่นกัน เพราะเท่าที่จำข้อมูลได้เห็นคุณชินพร บอกว่าได้รับผงพรายกุมารจากหลวงปู่ทิมมาแค่ตลับยาหม่องเท่านั้นครับ เมื่อผมได้รับผงพรายกุมารชุดนี้มา ก็ได้เก็บไว้เป็นมวลสารในการสร้างเครื่องรางของขลังหลายอย่าง ทำให้ได้ใช้จนหมดไปนานแล้วเหมือนกัน แถมยังจำไม่ได้ด้วยว่าผสมลงไปในเครื่องรางของขลังชุดไหนมั่ง แต่ที่กล้าการันตีได้เลยว่า ผงพรายกุมารของหลวงปู่ทิมนั้น มีตัวตนจริงแท้อย่างแน่นอน แม้จะผ่านการผสมปะปนกับมวลสารอื่น ๆ จนแทบจะเจือจางไปแล้ว แต่อำนาจแห่งอิทธิคุณก็ยังคงเข้มขลังเหมือนเดิม เพราะมีคนเคยเห็นเด็กกุมารในบ้านของผมนะครับ และก็ไม่ใช่ลูก ๆ องค์อื่นของผมอย่างแน่นอน เพราะระดับมันต่างกันเกินไป ผมไม่แน่ใจนะครับว่าผงพรายกุมารของหลวงปู่ทิมนั้น จะกลืนมวลสารอื่น ๆ ให้กลายเป็นผงพรายทั้งหมดเหมือนเช่นน้ำมันชาตรีของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง หลวงพ่อผู้อยู่ในใจของผมตลอดมา...ที่หากแม้หยดลงไปในน้ำมันใด ๆ ก็ตาม แม้เพียงแค่หยดเดียว น้ำมันทั้งหมดนั้นจะมีคุณวิเศษเป็นน้ำมันชาตรีทุกประการ เขาเรียกว่าวิธีการต่อเชื้อเอา เพราะปัจจุบันนี้ผมก็มีบูชาไว้อยู่โดยการต่อเชื้อเอาหลายรุ่นแล้วเหมือนกัน แต่ความวิเศษนั้นยังคงศักดิสิทธิ์เหมือนเดิมครับ
ส่วนมวลสารของอาจารย์เปล่ง บุญยืนนั้น ผมเคยได้รับจากรุ่นพี่ท่านหนึ่งขออนุญาตไม่เอ่ยนาม เป็นผงพราย 59 ตนที่ใช้ขุนแผนพราย 59 ตนจำนวน 5-6 องค์มาบดผสมรวมกับสีผึ้งพราย 59 ตนของอาจารย์เปล่ง และหากจะถามว่าทำไมพี่คนนั้นท่านถึงกล้าทำแบบนั้นไำด้ เพราะพี่เขาได้รับขุนแผนและสีผึ้งมาจากมือของท่านอาจารย์เปล่งมากพอดู แถมตอนนั้นขุนแผนรุ่นนี้ก็ไม่ได้โด่งดังหรือมีราคาค่างวดที่ค่อนข้างแพงดังเช่นทุกวันนี้ พี่เขาเลยกล้าทุบเอามาทำมวลสารดีกว่า เพราะสามารถเอาไปเป็นมวลสารในการสร้างพระเครื่องหรือเครื่องรางของขลังได้อีกมากมาย ดีกว่าจะมาจมแค่เป็นพระขุนแผนเพียงไม่กีองค์เท่านั้น ส่วนความสนิทชิดเชื้อโดยส่วนตัวของพี่คนนี้นั้น ท่านมีเพื่อนที่เคยทำบล๊อคและสร้างกุมารทองรุ่นแรกให้อาจารย์เปล่ง บุญยืนนะครับ เดี๋ยวผมมีภาพเปรียบเทียบกุมารทองของอาจารย์เปล่ง บุญยืนที่ท่านได้รับจากเพื่อนของรุ่นพี่คนนี้ไป แล้วท่านเอาไปแช่ว่านยาต่าง ๆ เอาสีทองทาทับ และอุดผงพรายข้างใต้ฐานของกุมารทอง ส่วนกุมารทองอีกองค์เป็นกุมารทองชุดเดียวกับของอาจารย์เปล่ง แต่อาจารย์เปล่งไม่ได้ปลุกเสก จึงเป็นสภาพของเนื้อมวลสารเดิม ๆ ไม่มีสีทองทาทับภายนอก แต่ปลุกเสกโดยพ่ออาจารย์สม บ้านต๋ม เชียงใหม่และอาจารย์เซียนกุมารทองครับ ความจริงแล้วผมมีอีกองค์หนึ่งด้วยแต่ไม่ได้ถ่ายรูปมาโชว์ข้างใต้ฐานจะเขียนว่า...อ.เปล่ง...เหมือนกุมารทองของอาจารย์เปล่งทำทุกประการเลย โดยภาพทั้งสองนี้ผมเคยเป็นเจ้าของนะครับ แต่ตอนนี้ได้มอบให้ท่านอื่นไปบูชาต่อแล้ว เพราะเขาผู้นั้นมีความเดือดร้อนที่ต้องพึ่งพากุมารทองมากกว่าผมนะครับ
โดยมวลสารที่ผมได้รับมานั้นจะเป็นผงก้อนสีดำ ๆ นะครับ แต่เรื่องความแรงนั้น เคยชนข้าวของในบ้านล้มลงได้เองหลายชิ้นครับ ดังเช่นขวดน้ำปลา ที่ล้มได้เองอย่างน่าอัศจรรย์ใจ ส่วนเรื่องเข้าฝันบ้าง มากระซิบบ้าง หรืออื่น ๆ ก็มีมากมายครับ แต่ผมไม่ค่อยแน่ใจนะครับว่ามาจากผงพราย 59 ตนอย่างเดียวหรือมาจากกุมารทองของอาจารย์เปล่งด้วย
อ้อ...เกือบลืมไปอย่างหนึ่งก็คือ พี่ชายท่านนี้ท่านใจดีได้เมตตาใช้บล๊อคขุนแผนรุ่น 4 พราย 59 ตนของอาจารย์เปล่ง กดพิมพ์เป็นขุนแผน โดยใช้ผงพราย 59 ตนล้วน ๆ ผสมสีผึ้งพราย 59 ตนมาให้ผมอยู่ 1 องค์ เดี๋ยวถ้าวันหลังมีโอกาสจะถ่ายภาพมาให้ชมนะครับ แต่องค์นี้ผมเอาไปอุดมวลสารเพิ่มและให้พ่ออาจารย์สม บ้านต๋ม เชียงใหม่ปลุกเสก จึงแรงมาก ๆ แบบทวีคูณเลย แต่แรงทางด้านพลังวิญญาณ เพราะใส่แล้วมึนหัว แต่ไม่เคยใช้ลองจีบสาวซักกะที เพราะระดับอาจารย์ฆราวาสที่เก่งสุด ๆ ถึง 2 ท่านปลุกเสกให้นี่ครับ...คงอัดพลังไปซะเต็มแรงเลย ส่วนผงพราย 59 ตนของอาจารย์เปล่งทุกองคนั้น ตอนนั้นเหลือเพียง 58 ตนเท่านั้นนะครับ เพราะเมื่อสมัยก่อนผมเคยสัมผัสเขาได้ เขาขอลาไปเกิดเสียหนึ่งตน และเคยมีคนถามเรื่องนี้ ผมจึงเอาไปโพสเล่าเรื่องนี้ให้สมาชิกท่านอื่น ๆ ในเวปบอร์ดแห่งหนึ่งฟัง พอผ่านไปได้ซักปีกว่า สมาชิกท่านหนึ่งก็มาโพสให้คำรับรองว่าที่ผมบอกมาว่าผงพรายของอาจารย์เปล่งเหลือแค่ 58 ตนแล้วนั้นเป็นเรื่องจริง เขาคงไปทำการพิสูจน์ทางจิตบางอย่างนะครับ จึงห่างหายไปนานกว่าจะมายืนยันคำพูดเหล่านี้ให้ผมได้ แต่ในวันนี้ผมไม่ทราบแล้วนะครับว่าเหลืออีกกี่ตนยังไง เพราะตั้งแต่เคยหลงไปกับเรื่องผู้หญิง จนห่างหายจากวิถีแห่งมโนยิทธิไป มาจนถึงวันนี้ก็เริ่มเห็นแต่ความมืดบอดไปหมดแล้วครับ. |
คะแนน
-
ดูบันทึกคะแนน
|