รบกวนชี้แนะด้วยครับ

หนูได้ไปปฏิบัติธรรมที่วัดสังฆทาน แล้ววันที่5ที่ปฏิบัติธรรม ก็มีอาการแปลกๆค่ะ คือเหมือนมีใครสักคนจะพยายามติดต่อหรือสื่อสารอะไรบางอย่าง ตอนแรกหนูคิดว่าเป็นกุมารที่เลี้ยงไว้ มาสื่อสารในช่วงเวลาที่พระกำลังจะให้พร หนูก็บอกว่า อย่าเพิ่งมาตอนนี้เลยเพราะคนเยอะ พอยิ่งพูดก็ยิ่งหนักขึ้นเรื่อยค่ะ เลยโทรไปหาพี่คนนึงเพื่อจะได้คุยกับสิ่งหนึ่งที่จะพยายามสื่อสาร  พอได้คุยพี่ที่คุยด้วยก็บอกว่า พรุ่งนี้ค่อยคุยกัน แต่สิ่งนั้นไม่ยอมจะสื่อสารให้ได้  ร่างกายหนูยิ่งไม่ไหว เลยต้องปล่อยออกมา และก็อยู่ดีๆก็ร้องไห้ค่ะ รู้ตัวว่ากำลังทำอะไรแต่ไม่สามารถทำอะไรได้ รู้อย่างเดียวเลยว่า เศร้ามาก เศร้าแบบว่าจะขาดใจ  แปปนึง แล้วก็หายไป  จนคิดว่าดีขึ้นแล้ว พอไปทำวัตร นั่งสมาธิก็มาอีกค่ะ เหมือนจะอยู่ตลอด สิ่งที่หนูสัมผัสได้คือ สิ่งที่กำลังจะสื่อสารนั้นต้องการจะบอกอะไรกับพี่คนที่อยู่ในสายค่ะ
พี่คนนั้นเลยต้องเดินทางมากลางดึกที่วัดเลยค่ะ  พอคุยกันไปสักพัก พี่ก็ถามว่าเป็นไงบ้าง แล้วพาเดินไปจุดที่เกิดเหตุ แต่มีเรื่องสังเกตอย่างหนึ่งนะคะว่า พอใกล้พี่คนนี้สิ่งนั้นเหมือนจะออกมา แต่ไม่กล้าออกมายังไงไม่รู้ค่ะ จนมีตอนหนึ่งที่พี่เขาไปเข้าห้องน้ำ สิ่งนั้นก็มาเลยค่ะ ขึ้นจากขาขึ้นมาถึงตัว  จนหนูก็ไม่สามารถห้ามตัวเองได้ ร้องไห้ แบบทรมานลั่นวัดเลยค่ะ คนมาดูกันเต็มเลย ใช้เวลาประมาณ 5 นาที กว่าจะหลุดออกมาได้  หนูคิดว่า คงอยู่ต่อไปไม่ได้แล้ว กะว่าพรุ่งนี้จะขอกลับบ้าน ตอนสายๆพี่มารับไปบ้านเพื่อนของเขาค่ะ เพราะต้องรอบ่าย2 ที่จะเอาของที่อยุ่ที่วัดกลับได้  พอไปถึงบ้านเพื่อนพี่เขาก็มีอาการแบบนี้อีกค่ะ เป็นประมาณ2ชั่วโมง แบบไม่สามารถควบคุมตัวเองได้เลย พยายามสู้จนใจจะขาด แต่สุดท้ายสิ่งที่หนุรู้คือ วิญญาณดวงนั้นเขารุ้จักกับพี่คนที่มารับหนูค่ะ ดูแล้วว่าจะเป็นคนรักในอดีตชาติที่รอกันจนเจอ แล้วก็แสดงอาการคิดถึงห่วงหาแบบว่ารอเจอกันมานานค่ะ หนูรับรุ้ได้ถึงความรุ้สึกที่เศร้ามากๆของดวงจิตดวงนี้ ว่า ทรมานมากขนาดไหนในการจากลา  จนตัวหนูเองไม่ไหวค่ะ มีการบีบมาที่คอหนูด้วยค่ะ และรุ้สึกได้เลยว่า เขากินยาตายเพราะความเสียใจ  พี่คนนั้นก็พยายามขอโทษ ขออโหสิกรรม แต่เขาไม่ยอมค่ะ  จนสุดท้ายหนูเหมือนใจจะขาดแล้วค่ะ เลยรวบรวมสติแล้วบอกไปว่า พาไปหาพระอาจารย์อ้อน วัดบางตะไนย์หน่อย ก็เลยให้พี่ชายของเพื่อนขับรถไป ระหว่างที่ไปนั้นก็พยายามต่อสู้อย่างที่สุด จนคิดว่าไม่ไหวแล้ว จะหลับลงไปให้ได้แล้วพอไปถึง พระอาจารย์ทานก็กำลังออกไปข้างนอกพอดี ก็ไม่ร็ทำอย่างไรตอนนั้น พี่ที่พาไปเลยพาไปนั่งหน้าพระประธาน แล้วพอหันไปเจอรูปปั้นของพระอาจารย์อ้อนเท่านั้นความรู้สึกของดวงวิญญาณนั้นบอกว่า กลัวมาก และก็ถอยออกไป  นั่งไปสักพักก็จะกลับไปที่บ้านหลังเดิม แต่พอออกจากวัดก็เหมือนว่าดวงวิญญาณนั้นตามมาอยู่ดีค่ะ  พอประมาณเกือบ6โมงก็กลับไปวัดสังฆทานเพื่อจะไปเก็บของกลับบ้าน  เรื่องมันยังไม่จบเท่านั้นค่ะ พอกลับไปบ้านรุ้สึกว่า เขาตามตลอดเวลา และมีเห็นเขาเดินอยู่ในบ้านด้วยนะคะ เขาใส่ชุดนักบวชสีขาวแบบปฏิบัติธรรม และผมสั้น  ก็ไม่รู้จะทำยังไง ก็เลยเข้าไปสวดมนต์ในห้องพระ แต่ก่อนที่จะเริ่มสวดมนต์มีความรู้สึกว่าเขาจะมา และแรงจนรู้สึกได้ค่ะ พอสวดไปสักพักก็เริ่มดีขึ้นแต่เขาก็ไมได้ไปไหนนะคะยังคงอยู่ตลอดเลย

เช้าวันรุ่งขึ้นคิดว่าต้องไปหาใครสักคนเพื่อทีเพื่อต้องช่วยเรื่องนี้ได้ ก็เลยไปเจอป้าท่านหนึ่ง พอเข้าไปป้าเขาก็บอกว่า มีคนตามหนูมาจริงๆค่ะ รออยู่หน้าบ้านเข้ามาไมได้ด้วยค่ะ  แล้วป้าเขาถามว่า รุ้ไหมว่าเขาต้องการอะไร ??  หนูบอกไปว่า เขาต้องการมาอยุ่กับพี่คนนี้ คือพี่ที่ไปรับหนูจากวัดค่ะ แล้วป้าก็มองไปหน้าบ้านเหมือนทำสายตาดุ แล้วป้าบอกว่า เขาร้องไห้ แล้วป้าเขาก็ให้ท่องอะไรสักอย่างหน้าหิ้งพระค่ะ  เพราะกำลังจะกลับ แต่ไม่เท่านั้นนะคะ ดวงจิตนั้นเหมือนจะแทรกเข้ามาค่ะ ป้าเลยให่ท่องอะไรอีก แล้วบอกว่าเขาไปแล้ว  พอหนุเดินออกมาจริงก็เหมือนว่าเขาไม่อยุ๋แล้วจริงๆค่ะ แต่พอออกมาหน้าซอยเขาก็มาอีกนะคะ และแสดงให้รุ้เลยว่าไม่ได้ไปไหน ตอนนั้นเริ่มไม่ไหวค่ะ เลยให้แวะที่สัดกู้ เพื่อไปไหว้พระนางสุนันทา พอเริ่มดีขึ้นก็ไปไหว้หลวงปู่เอี่ยมวัดสะพานสูงค่ะ แล้วก็อธิฐาน  
( ที่ต้องไปวัดสะพานสูงเพราะ ย้อนกลับไปที่บ้านเพื่อนของพี่เขา  พี่เขาใส่พระหลวงปู่เอี่ยม แล้วความรู้สึกว่า พระที่พี่คนนั้นใส่เป็นของเขาค่ะ )
ก็ดีขึ้นนะคะเหมือนเขาจะไปแล้วจริงๆ ก็เลยกลับมาจากวัดสะพานสูง แล้วหนูกำลังจะกลับบ้าน กำลังจะแยกกับพี่เขาไป ก็เหมือนว่า เขากลับมาอีกค่ะ แล้วในปัจจุบันี้เขาก็ยังอยู่ค่ะ และนอกจากดวงวิญญาณที่กล่าวไปข้างต้น เวลาไปไหนมาไหนตอนนี้ก็จะมีดวงวิญญาณตามมาได้เรื่อยๆค่ะ บางทีมาซ่อนอยุ่ที่ขา ที่นิ้วเท้า บางทีมาอยุ่ที่หน้าอกค่ะ ปัจจุบันนี้ใช้ชีวิตลำบากมากค่ะ เวลาไปทำงานก็ต้องระแวงว่าจะมีอะไรตามมา อยากรู้หนทางแก้ไข และช่วยชี้แนะด้วยค่ะ

ขอบคุณค่ะ

(ข้อความทั้งหมดผมก็อปจาก เจ้าตัวนะครับ)

สมัยไปปฎิบัติธรรมที่วัดสมัยมัธยม เพื่อนผมก็เป็นแบบนี้1คน ออกจากวัดแล้วมาเป็นต่อที่โรงเรียน 2เดือนกว่า มันเป็นในคาบวิชาจริยธรรม ตอนอาจารย์ให้นั่งสมาธิ ตอนนี้ไม่รู้เป็นไงไม่ได้ติดต่อกันมา10กว่าปีแล้ว
        ลักษณะที่เค้าเจอในฐานะที่ผมทำงานในวงการแพทย์มองได้สองอย่างครับ 1.วิญญาณมาจริง 2.หลอน (visual hallucination) เป็นอาการของโรค จิตเภท (schizophrenia)

ถ้าทำให้ถูกก็ สวดพุทธคุณ แผ่เมตตาไป
ถ้ากลัวมาไม่ไหว ก็หาของสายกัน คุ้มครอง
เช่น พระหลวงพ่อกวย ตะกรุดกาสะท้อนหลวงพ่อน้อย เบี้ยแก้ มีดหมอ ท้าวเวสสุวรรณ

akkawat ตอบกลับเมื่อ 25-5-2014 16:24
ถ้าทำให้ถูกก็ สวดพุทธคุณ แผ่เมตตาไป
ถ้ากลัวมาไม่ไหว ...

เขาทำทุกอย่างแล้วครับ สวดมนต์ หาพระ หาท้าวเวสมาคล้อง ทำบุญ ใส่บาตร หล่อพระ อะไรที่เป็นบุญเลือกได้ว่าทำหมด

ส่วนเรื่องทางการแพทย์ไปตรวจรักษามาอย่างละเอียดไม่พบการผิดปกติใดๆ

เจอท้าวเวสของคณาจารย์แท้ๆน่าจะหมดปัญหานะครับ

อาการแบบนี้มันตรวจไม่เจอครับ ต้องลองคุยกับจิตแพทย์ดูครับ คนไข้ส่วนหนึ่งอ้างว่าเห็นวิญญาณครับ บางคนเป็นร่างทรง รับขันมาอะไรประมาณนั้น ผมเจอบ่อยๆ ส่งปรึกษาจิตแพทย์ช่วย บางคนไม่ได้คิดว่าตัวเองป่วยด้วยซ้ำ กินยาแล้วหายก็มีครับหลายคนมายอมรับภายหลังว่าน่าจะเป็นอาการป่วยครับ

akkawat ตอบกลับเมื่อ 25-5-2014 23:21
เจอท้าวเวสของคณาจารย์แท้ๆน่าจะหมดปัญหานะครับ

อากา ...

เรื่องป่วยนี่ตัดไปเถอะครับ เขาไปรักษาทางวิทยาศาสตร์ก่อนเลย ทั้งคลินิค โรงพยาบาล

เอานะครับ ขอเรื่องที่มันลึกลับครับ ไม่เอามาป่วยทางจิตเพราะไปตรวจมาหลายที่แล้ว  
ส่วนท้าวเวส อาจารย์แท้ๆหมายความว่าไง แสดงว่า ที่คล้องห้อยอยุ่คือของปลอมหรอครับ
ขอคำแนะนำช่วยแนะนำดีๆหน่อยนะครับ  ไม่ใช่เอะอะมาแนว จิตๆๆ

คาถาบทนี้ พระ องค์ที่ ๑๐ มาบอกหลวงพ่อในขณะที่หลวงพ่อพักอยู่ที่เมืองควีนทาวน์ ประเทศนิวซีแลนด์ เมื่อวันที่ ๒๘ มีนาคม ๒๕๒๙ เวลา ๐๕.๐๐ น.

ก่อนนอนหลวงพ่อนอนภาวนาเป็นปกติ ตื่นขึ้นมามีอาการปากขยับไม่ได้ มือขยับไม่ได้ รู้สึกอึดอัด คล้ายเป็นอัมพาต แต่ใจสบาย พระ องค์ที่ ๑๐ มาบอกว่า

"เวลานี้มีคนคิดทำให้เธอเป็นแบบนี้"

และท่านให้เห็นตัวผู้ทำชัดเจน พระ องค์ที่ ๑๐ ให้ภาวนาว่า "สัมปจิตฉามิ" จึงคลายตัว คาถาบทนี้ไม่ได้ให้ใช้เฉพาะหลวงพ่อเท่านั้น อนุญาตให้พุทธบริษัทศิษยานุศิษย์และลูกหลานหลวงพ่อใช้ได้ด้วย

ก่อนนอนภาวนา ให้ตั้ง นะโม ๓ จบ และต่อด้วย พุทธัง สรณัง คัจฉามิ

ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ

สังฆัง สรณัง คัจฉามิ

และสวด อิติปิ โส ฯ ๓ จบ จึงภาวนาเรื่อย ๆ ในขณะที่ภาวนาให้ทำใจสบาย ๆ ผลของคาถาบทนี้ จะมีผลต่อผู้สั่ง ผู้รับคำสั่ง ผู้ร่วมมือ และผู้กระทำไสยศาสตร์มายังเราโดยฉับพลัน

ผลพิเศษ ถ้าตั้งใจรักษาศีล ๕ บริสุทธิ์ หรือ ตั้งใจรักษากรรมบถ ๑๐ ได้ครบถ้วน สามารถระงับนิวรณ์ได้ ภาวนาวันละ ๑ ชั่วโมงเป็นเวลา ๓ เดือนติดต่อกัน จะมีผลคล้าย "อภิญญา"

หมายเหตุ "สัมปจิตฉามิ" อ่านว่า สัม - ปะ - จิต - ฉา - มิ คาถาบทนี้ใช้ได้เฉพาะผู้ที่เป็นสัมมาทิฏฐิเท่านั้น ไม่มีผลสำหรับผู้เป็นมิจฉาทิฏฐิ พระโมคคัลลาน์ท่านมายืนยันว่า คาถาบทนี้เป็นคาถาอภิญญา บอกว่าคนที่ได้อภิญญามาในชาติก่อน ถ้าใช้คาถาบทนี้ของเก่าจะรวมตัว คือว่า ทำไป ๆ ถ้าเข้าถึงผรณาปีติจะรู้สึกว่าตัวไม่มีเหลือแต่หน้า ต่อไปก็ไม่มีอะไรเหลือเลย หน้าก็ไม่มี ถ้าทำได้เช่นนี้บ่อย ๆ ไม่ช้าก็รวมตัวจะไปไหนก็ได้ เที่ยวต่างประเทศเรื่องเล็ก ฆราวาสทำได้ทุกอย่าง แต่พระห้ามแสดงต่อหน้าคน

----------------------------------------------------------------------------------------------
คาถาบทนี้ไม่ใช่แค่สนองกลับคุณไสย์ แต่มีอะไรมากกว่านั้น ลองภาวนาดูครับ

title ตอบกลับเมื่อ 27-5-2014 01:17
เรื่องป่วยนี่ตัดไปเถอะครับ เขาไปรักษาทางวิทยาศาสต ...

ตามความคิดเห็นของดิฉัน อย่าตัดเรื่องที่ท่าน attawat วิเคราะห์เรืี่องป่วยทางจิตเลย เพราะการเห็นภาพหลอน ในทางวิทยาศาสตร์มันพิสูจน์ได้ว่าป่วย รักษาได้ แม้มันจะไม่หายขาดก็ก็ตาม เพราะดิฉันคิดว่า คนที่คิดจะเข้าไปนั่ง ปฎิบัติส่วนหนึ่ง ย้ำนะคะว่า ส่วนหนึ่ง หรือแทบจะเป็นส่วนใหญ่ก็ได้ เขามักมีความคาดหวังจะเจออะไร หรือต้องการค้นหาอะไรบางอย่างแบบที่เขาเคยเชืี่อ มีแนวโน้มจะเชื่อ หรือ เขาอาจกำลังมีสภาวะจิตใจที่เศร้าหมอง ว่างเปล่า ปลง เลยอาจทำให้เขา "มโน" สิ่งต่างๆ ที่เล่ามานั่นแหละ เรื่องราวเหล่านี้สำหรับดิฉันว่า แยกแยะยากจังค่ะ แต่รับฟังเพืี่อวิเคราะห์จากลักษณะ และอุปนิสัยของคนๆ นั้นประกอบด้วยค่า เช่น ชอบไปทางแนวร่างทรง เทพเจ้า ฯลฯ  ส่วนถ้าถามหมอ เขาฟันธงทางเดียวคือ จิตเภท ท่านเองควรเปิดรับการรักษาทางนี้ด้วย ที่ว่าไปมาหลายที่แล้วมีที่ไหนบ้าง? เผื่อจะช่วยชี้แนะ หรือไม่งั้นดิฉันจะแนะไปหาอาจารย์ที่เก่งเรืี่องถอนของอะไรเงี้ยะ?

เอามันสองทาง เห็นมาก็เยอะแล้ว แต่ใจดิฉันโน้มเอียงไปทางหมอคนมากกว่า เรียนตามตรง  ส่วนตัวดิฉันเองเคยแต่ในฝัน เท่านั้นค่า

ปล. กระทู้ของท่าน ไม่ใช่ข่าวฮ็อตเลย โปรดศึกษากฏ ระเบียบ และใช้วิจารณญาณในการเลือกใช้ห้องเพื่อการโพสกระทู้!!

เจ้าเมืองกาหลง

การวิเคราะห์ของท่านเจ้าเมืองน่าสนใจครับ

จะดีมากถ้าให้อาจารย์ในทางไสยฯที่เป็นที่นับถือและยอมรับแกคนทั้งหลายได้พิเคราะห์ดูตามจิตปรารถนาของเจ้าของกระทู้
ถ้าอาจารย์ท่านนั้นพิจารณาแล้วเห็นว่าเกิดจากมโนไปตามที่จิตฝักใฝ่ ก็น่าจะพิจารณาตามที่ท่าน akkawat ว่าไว้นะท่านนะ

กระผมก็เคยลองนำเรื่องแบบนี้ที่เกิดขึ้นแก่ตัวเอง นำไปให้ครูบาอาจารย์ ท่านอาจารย์อ้วน หมอผี ท่านพิเคราะห์ดูให้
ท่านก็ว่าผมนั้นมโนไปเอง ไม่มีสิ่งใดในแบบที่กระผมคิดเลย กระผมจึงตัดเหตุที่ฝังใจนั้นออกไปได้  แล้วก็ไม่มีจิตฟุ้งซ่านไปในแนวนั้นอีกเลยจนถึงปัจจุบัน

ท่านลองพิจารณาแล้วตรองดูเถิดนะท่านนะ ที่นี่ไม่มีใครประสงค์ร้ายมีแต่หวังจะเห็นผู้ประสบเรื่องได้คลายทุกข์นะท่านนะ

โชคดีนะท่านนะ

เรื่องที่เจ้าของกระทู้เล่ามา ผมคิดว่าเกิดได้ทั้งสองกรณีตามที่เพื่อนสมาชิกและเจ้าเมืองบอก
ลองตั้งสติดีๆดูสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นไป เมื่อมีเกิดย่อมมีดับไปเป็นธรรมดา
หากอยากสบายใจลองสวดเมตตาใหญ่ เมตตาพรหมวิหารดูครับ
ขอให้ผ่านพ้นไปให้ได้นะครับ

phoewan ตอบกลับเมื่อ 21-6-2014 11:50
การวิเคราะห์ของท่านเจ้าเมืองน่าสนใจครับ

จะดีมากถ้า ...

หลายคน พอมาให้ความสนใจศาสตร์ลี้ลับ มันมีสิทธิ์มโนเอาเองมากค่ะ มีหลายคน หลงไปไกลสุดกู่ มันยากนักที่จะดึงให้เขากลับมาคิดถึงวิทยาศาสตร์ เจ้าเมืองเอง มาจากความ ไม่เชื่อสักเท่าไรนำเป็นตัวตั้ง จึงได้คำตอบหลายอย่างที่บางครั้งหาเหตุผลไม่ได้จริงๆ และหลายครั้ง คิดไปมาก็เจอเหตุ ที่มาของผล แบบชิลๆ โดยไม่ต้องไปคิดซับซ้อน เมืองเราไม่นิยมให้คนงมงาย ดังนั้น ตัอง " อย่ามโน" ใช้สติให้มากๆ แบบที่ท่านได้คำตอบน่านหละ จริงไหมคะ

kiddee ตอบกลับเมื่อ 21-6-2014 13:42
เรื่องที่เจ้าของกระทู้เล่ามา ผมคิดว่าเกิดได้ทั้งสอ ...

ดูทรงนี้ ยิ่งสวด ยิ่งเห็นนะท่าน

cho ตอบกลับเมื่อ 22-6-2014 13:20
ดูทรงนี้ ยิ่งสวด ยิ่งเห็นนะท่าน

ก็ไม่แน่ใจครับ แต่ขนาดพระเข่าป่าเจอผีหลอก สวดกรณียสูตรผียังไม่มาหลอกเลย และถ้าให้ขนาดเมตตาใหญ่แบบนี้น่าจะพอ