|
อ่านกันต่อครับ
เช้าตื่นขึ้นมาจึงบอกเล่าความฝันให้ญาติๆฟัง พร้อมกับแจ้งว่าตัดสินใจจะบวชตามที่หลวงปู่ทั้งสองแนะนำ ญาติๆต่างก็เห็นด้วย จึงไปเตรียมการอุปสมบทให้ จากนั้นนายเทก็หายวันหายคืนอย่างอัศจรรย์กระทั่งได้อุปสมบทเมื่อวันจันทร์ ที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2505 ขณะอายุได้ 48 ปีณ วัดบางนรา ต.บางนาค อ.เมือง จ.นราธิวาส ซึ่งตรงกับวันขึ้น 5 ค่ำ เดือน 9 โดยมีพระราชสามนต์โมลี วัดบางนรา เจ้าคณะจังหวัดนราธิวาสเป็นพระอุปัชฌาย์ และพระวินัยธรแก้ว อาภากโร,พระครูจันทร์ สิริโสภณ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ บวชแล้วได้จำพรรษาอยู่ที่วัดบางนรา นำแนวการปฏิบัติพระกรรมฐานตามแบบฉบับของหลวงปู่บุญที่ได้ร่ำเรียนมาปฏิบัติพัฒนาให้ก้าวหน้ากว่าเดิม คราวนี้สามารถสื่อสารกับกายทิพย์ของหลวงปู่บุญและหลวงปู่ทวดได้ตามใจนึก ภายหลังได้รับการชี้แนะจากหลวงปู่ทวด บอกแนวทางการปฏิบัติขั้นสูงให้อีก..ทำให้ท่านพบเจอกับความศักดิ์สิทธิ์ต่างๆมากมาย สำเร็จได้ดั่งที่หลวงปู่ทวดสอนสั่ง แถมยังมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงอายุยืนยาวตราบจนปัจจุบันยังสามารถเดินทางล่องหนไปมาซ่อนตัวได้ตลอดเวลา ยากที่ใครจะติดตามค้นหาได้ทัน ทำให้เรื่องราวของหลวงปู่เทเกือบจะสูญหายไปกับกาลเวลาถ้าหลวงปู่เทไม่ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งในวันพิธีมหาพุทธาภิเษก เหรียญเจ้าสัว 2 หน้า(หลวงพ่อบุญช่วยเจ้าอาวาสวัดกลางบางแก้วเททองให้วัดท่าเสา) ณ วิหารหลวงปู่บุญ หลวงปู่เพิ่ม ในวันที่9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556
การปรากฏตัวของหลวงปู่เทครั้งนี้สร้างความประหลาดใจแก่ผู้ร่วมพิธีเป็นอย่างมากว่า...พระชรารูปนี้เป็นใคร? มาจากไหน? มาได้อย่างไร?ในเมื่อไม่มีใครอาราธนานิมนต์มา ศิษย์ในสายวัดกลางบางแก้วเองก็แทบลืมท่านไปแล้วเพราะท่านย้ายไปอยู่ที่ อ.ยี่งอ นานเกือบ 60 ปีแต่ด้วยความสงสัยของผู้ที่เข้าร่วมพิธีมหาพุทธาภิเษก จึงมีคนถามท่านออกไปว่า“หลวงปู่ชื่ออะไร มาจากวัดไหน?” ท่านบอกว่าชื่อเท มาจากวัดยี่งอ จึงทำให้ศิษย์วัดกลางบางแก้วรุ่นอาวุโสนึกถึงท่านขึ้นมาได้ จากนั้นมีคนถามอีกว่า หลวงปู่มาปลุกเสกพระหรือครับ?” ท่านตอบว่า “ ใช่ ” อีกคนเลยถามต่อว่า “แล้วหลวงปู่รู้ได้อย่างไรว่าจะมีการปลุกเสก?” หลวงปู่ท่านก็ไม่ตอบอะไร แต่กลับชี้ไปที่รูปหล่อหลวงปู่บุญที่ตั้งอยู่ในพระวิหาร ทุกคนจึงเข้าใจตรงกันว่า หลวงปู่บุญคงบอกให้หลวงปู่เทมาร่วมพิธีปลุกเสกนั่นเองจากนั้นพิธีมหาพุทธาภิเษกก็ได้เริ่มขึ้นและดำเนินต่อไปสักระยะ ก็มีฆราวาสผู้เชี่ยวชาญทางสมาธิท่านหนึ่งที่อยู่ในพิธีนี้ด้วย หลุดปากบอกออกมาว่า “ โอ้โห... มีพลังหนักแน่นออกมาจากพระเกจิทางซีกซ้ายของมณฑลพิธี รังสีแปลกสว่างไสวไปทั่ว พอเพ่งมองไปกลับเห็นเป็นหลวงปู่บุญกับหลวงปู่ทวดออกมาจากตัวของหลวงปู่เท” ทำให้ผู้คนที่ได้ยินต่างตื่นเต้นกันอย่างมากว่า...หลวงปู่เทสามารถอัญเชิญหลวงปู่บุญและหลวงปู่ทวดมาเสกพระได้จึงทำให้การปลุกเสกครั้งนั้นมีพลังสว่างไสวมากขึ้นหลายเท่าทวีคูณ และเมื่อจบพิธีมหาพุทธาภิเษก ก็มีปรากฏการณ์อัศจรรย์ที่ยืนยันคำบอกเล่าของผู้เชี่ยวชาญทางสมาธิที่หลุดปากบอกออกมาว่าเป็นเรื่องจริง ไม่ได้โม้ นั่นคือเกิดปาฏิหาริย์บนสายสิญจน์ที่โยงลงมาจากพระประธานถูกเปลวไฟจากเทียนชัยลามเลียอยู่เกือบสองชั่วโมงแต่กลับไม่ไหม้ไฟ (ดังรูปภาพ) เหตุการณ์นี้ถึงกับทำให้หลวงพ่ออวยพร วัดดอนยายหอม ต้องลุกขึ้นไปดู พร้อมบอกว่า “มิน่า..เสกไม่ค่อยลง” พอมีผู้ไปถามท่านเกี่ยวกับคำบอกเล่าของอาจารย์ฆราวาสที่เห็นหลวงปู่บุญและหลวงปู่ทวดเดินออกจากองค์หลวงปู่เทมาเสกพระนั้นว่าหลวงพ่ออวยพรท่านเห็นด้วยหรือเปล่า? คราวนี้หลวงพ่ออวยพรท่านไม่ตอบตรงๆเพราะอาจจะผิดพระวินัยได้ ท่านจึงตอบเป็นนัยๆว่า “งานนี้พระผู้ใหญ่มากันมาก...ขลังจริงๆ” |
|