เมืองเสน่ห์กาหลง มหาเสน่ห์ มหาเมตตา มหานิยม
Khalong Amulet
1141
0
ซ่อนแถบด้านข้าง

กินปลากะตักหรือปลาจิ้งจั้ง เหมือนกินแคลเซียมจริงหรือ?

[คัดลอกลิงก์]
cho โพสต์เมื่อ 5-1-2020 11:45 | แสดงโพสต์ทั้งหมด |โหมดอ่าน
ประโยชน์และสรรพคุณของปลากะตักหรือปลาจิ้งจั้ง ( Anchovy )

กินปลากะตัก หรือ ปลาฉิ้งฉ้าง (ปลาจิ้งจั้ง) ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ และยังช่วยลดระดับความดันในโลหิตได้

ปลากะตัก หรือ ปลาจิ้งจั้ง
ปลากะตัก หรือ ปลาจิ้งจั้ง ( Anchovy ) ในประเทศที่ความหลากหลายทางชีวภาพมาก ถือว่าเป็นความโชคดีของผู้คนที่อาศัยอยู่ในแถบบริเวณนั้น เนื่องจาก จะมากไปด้วยพืชและสัตว์นานาชนิด ทำให้ได้ลองลิ้มชิมรสอาหารได้หลากหลายอย่าง แบบไม่ซ้ำซากจำเจ ให้ต้องเกิดความเบื่อหน่าย โดยเฉพาะอาหารที่ได้มากจากท้องทะเล ที่อุดมไปสัตว์น้อยใหญ่ พันธุ์ปลาและอื่นๆอีกมากมาย ให้ได้กินกันอย่างไม่มีวันหมด ปลากะตัก ก็เป็นปลาทะเลอีกชนิดหนึ่ง ที่นิยมนำมาประกอบเป็นอาหารทานกัน โดยเฉพาะชาติในประเทศแถบตะวันตก ปลากะตักเป็นปลากินแพลงก์ตอนเป็นอาหาร เป็นห่วงโซ่อาหารของปลาหมึก ปลาทู ปลาทราย เป็นต้น ความสมบูรณ์ของปลากะตักจึงเป็นตัวชี้วัดความสมดุลของท้องทะเล

ปลากะตัก หรือ ปลาจิ้งจั้ง
ปลากะตัก ออกเสียงไม่เหมือนกันในแต่ละภาค บ้างก็เรียก ปลากะตะ ปลากระตัก คือ ปลาทะเลขนาดเล็กชนิดหนึ่ง มีขนาดตัวโตเต็มที่ประมาณ 6 นิ้ว เป็นปลาที่มีลักษณะรูปร่าง คล้ายคลึงกับปลาซาดีน แต่มีขนาดที่เล็กกว่า มีเกร็ดเป็นสีเงินส่องประกาย เป็นปลาที่อยู่ในสายพันธุ์เดียวกับปลาไส้ตัน ปลากะตักนี้สามารถพบได้ตามท้องทะเลทั่วโลก

ปลากะตักหรือปลาจิ้งจั้งใช้ทำเป็นเมนูอะไรได้บ้าง?
ปลากะตัก เป็นปลาอีกหนึ่งชนิด ที่นำมาใช้ประกอบเป็นอาหาร นิยมนำมาหมักเค็มแล้วแช่ในน้ำมัน มีรสชาติออกเค็มและมีกลิ่นที่จัด ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของปลาชนิดนี้ ปลาข้าวสาร คือชื่อเรียกลูกปลากะตักที่ยังไม่โตนั่นเอง ปลาข้างสาร มีประโยชน์มากมายสามารถนำไปใช้ประกอบอาหารได้หลากหลายเมนู เช่น นำไปทานคู่กับสลัด ใช้ทำเป็นหน้าพิซซ่า ใช้ผัดกับสปาเก็ตตี้ และอื่นๆแล้วตามความชอบ ปลากะตักชนิดสดโดยมากชาวตะวันตกจะนิยมนำไปทำเป็นซุปทานกัน

กินปลากะตัก หรือ ปลาฉิ้งฉ้าง ( ปลาจิ้งจั้ง )
ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ และยังช่วยลดระดับความดันในโลหิตได้

ประโยชน์ของปลากะตักหรือปลาจิ้งจั้ง
ปลากะตัก จะอุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์อย่าง เช่น กรดไขมันโอเมก้า 3 โปแทสเซียม ( Potassium ) และแคลเซียม ( Calcium ) ในปริมาณที่สูง การทานปลากะตัก ขนาด 3 ออนซ์ จะให้พลังงาน 10 แคลอรี แบ่งเป็น ไขมัน 4 กรัม โพแทสเซียมมากกว่า 300 มิลลิกรัม และแคลเซียม 125 มิลลิกรัม การทานปลากะตักในปริมาณที่เหมาะสม จะได้รับสรรพคุณที่ดี มีประโยชน์กับร่างกาย นอกจากปลากะตัก หรือ ปลาจิ้งจั้งแล้ว ปลาเล็กปลาน้อยก็มีประโยชน์ และให้แคลเซียมสูงด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ปลากะตักยังสามารถนำไปดองน้ำปลาได้เหมือนกับปลาไส้ตัน

ข้อแนะนำในการทานปลากะตักหรือปลาจิ้งจั้ง
1. ปลากะตักแบบกระป๋อง เรียกว่า ปลาแอนโชวี่กระป๋อง ควรเลือกซื้อชนิดที่อยู่ในน้ำมันปลา หรือในน้ำมันมะกอก มากว่าการเลือกชนิดที่อยู่ในน้ำมัน เนื่องจากชนิดที่อยู่ในน้ำมัน จะมีปริมาณของไขมัน คอเลสเตอรอล ( Cholesterol ) และโซเดียม ( Sodium ) ในระดับที่สูง ซึ่งไม่ส่งผลดีต่อสุขภาพ

2. การเลือกซื้อปลากะตักแบบสดมาปรุงอาหาร หากใช้ไม่หมด จะสามารถเก็บใส่ตู้เย็น เพื่อรักษาความสดของปลาไว้ได้ประมาณ 2 วัน แต่หากนานกว่านี้ ต้องนำไปแช่แข็งโดยหุ้มให้สนิทด้วยกระดาษห่อสำหรับช่องแช่แข็งโดยเฉพาะ เพื่อให้เนื้อปลายังคงความสดไว้ได้นาน

ปลากะตัก ถือว่าเป็นปลาทะเลที่มีประโยชน์และสรรพคุณที่ดีต่อร่างกาย ทั้งช่วยป้องกันโรคหัวใจ และช่วยลดระดับความดันโลหิต ผู้บริโภคควรรับประทานในปริมาณที่เหมาะสม และรู้จักเลือกประเภทให้ถูกต้อง เพื่อให้เกิดประโยชน์กับร่างกายอย่างสูงสุด

เอกสารอ้างอิง

“ทะเลไทย” โดย ภาคภูมิ วิธานติระวัฒน์ จากหนังสือ “ปลาหายไปไหน” และ รายงานการประมงในประเทศไทยโดย กรีนพีซ มิถุนายน พ.ศ. 2555.

สมโภชน์ อัคคะทวีวัฒน์, เกษตรและสหกรณ์,กระทรวง กรมประมง . ภาพปลาและสัตว์น้ำของไทย . พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ : องค์การค้าของคุรุสภา , 2535.

แอพเพิลเกต, ลิซ. 101 อาหารรักษาหัวใจ.–กรุงเทพฯ : องค์การค้าของคุรุสภา, 2547. 342 หน้า. 1. อาหารเพื่อสุขภาพ. 2.โภชนบำบัด. I.จงจิต อรรถยุกติ, ผู้แปล. II.ชื่อเรื่อง. 641.56311 ISBN 974-00-8692-6.

Nelson, Gareth (1998). Paxton, J.R.; Eschmeyer, W.N., eds. Encyclopedia of Fishes. San Diego: Academic Press. pp. 94–95. ISBN 0-12-547665-5.
คุณต้องเข้าสู่ระบบก่อนจึงจะสามารถตอบกลับโพสต์นี้ได้ เข้าสู่ระบบ | สมัครเป็นชาวเมืองเสน่ห์กาหลง

รายละเอียดเครดิต

ปิด

เว็บมาสเตอร์แนะนำย้อนกลับ /1 ถัดไป

รายชื่อผู้กระทำผิด|Archiver|Mobile|เมืองเสน่ห์กาหลง (Khalong Charming Town)

GMT+7, 29-3-2024 13:50 , Processed in 0.051098 second(s), 6 queries , File On.

Powered by Discuz! X3.4

© 2001-2017 Comsenz Inc.

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้