ความเป็นจริง ของวิชาไมยราพสะกดทัพ

บทความที่ผมจะเขียนนี้ไม่ได้มั่ว ไม่ได้ปั้นน้ำเป็นตัว ผมอ้างอิงทุกอักษรจากนิตยสารที่เชื่อถือได้ คือหนังสือ อิทธิฤทธิ์พระเกจิครับ
ผมเองก็เป็นอีกคนที่หลงเช่าหลงบูชาของดีแต่ไม่รู้ที่มาความเป็นไปมานาน เรามาติดตามกันดูนะครับ รับรองตาสว่างเลย

ก่อนอื่นเลย ผมขอให้เพื่อนๆพี่ๆ ทำความรู้จักกับองค์หลวงปู่ทองพูนไว้ก่อน ถือว่าเป็นเกียรติที่ได้เผยแพร่บารมีครูบาอาจารย์องค์นี้จริงๆ ช่วยๆกันครับ พระดีเเต่เก็บตัวมาหลายทศวรรษ

มาดูกันนะครับ ว่าหลวงปู่ทองพูนองค์นี้เก่งขนาดไหน
หลวงปู่ปัจจุบัน พระคุณเจ้าท่านมีสิริอายุ 94 ปีแล้ว เป็นชาวจังหวัดเพชรบุรี ท่านเป็นศิษย์ 10 สาย พระเกจิอาจารย์ หรือที่ลูกศิษย์นิยมเรียกกันว่า หลวงปู่ทองพูน 10 ทัศน์
หลวงปู่ท่านเดินธุดงค์มาค่อนชีวิต ปฎิบัติธรรมอยู่ตามถ้ำมานานหลายสิบปี แม้เมื่อปัจจุบันท่านสร้างสำนักปฎิบัติธรรม ท่านก็ยังอยู่ในถ้ำ ถ้ำนั้นคือถ้ำจำปาทองครับ มาดูประวัติครูบาอาจารย์ของหลวงปู่กันนะครับ
1. หลวงพ่อสด วัดปากน้ำ สุดยอดพระอริยะสงฆ์คงไม่มีใครไม่รู้จัก หลวงปู่ได้รับการบวชเณรและบวชพระจากหลวงพ่อสด วัดปากน้ำพร้อมทั้งถ่ายทอดวิชามหาโภคทรัพย์และธรรมกายชั้นสูงให้ เรียกได้ว่าท่านสำเร็จธรรมกายเละการลบผงมหาโภคทรัพย์ตามแบบฉบับหลวงพ่อวัดปากน้ำมาเนิ่นนานเเล้วก็ว่าได้ หลวงปู่ท่านอยู่อุปัฎฐากและร่ำเรียนกับหลวงพ่อสดเป็นเวลายาวนานถึง 22 ปี ตั้งเเต่อายุ 9 ขวบ จนถึงอายุ 31 จนสามารถชักยันต์ลบผงและบรรจุวิชาสำเร็จ จึงได้ออกจากวัดปากน้ำไปแสวงหาพุทธาคมเพิ่มเติมโดยสืบสายพระเกจิหลายรูปซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นญาติผู้ใหญ่ของท่านทั้งสิ้น
2. สายเจ้าคุณปู่อินทร์ วัดยาง เจ้าของวิชากระสุนหลง นะโมหัวช้าง ไม้สะแกตาบอด โดยเจ้าคุณปู่อินทร์มีศักดิ์เป็นหลวงลุงของท่าน
3. สายหลวงพ่อกุน วัดพระนอน เจ้าของวิชาตะกรุดไมยราพสะกดทัพและวิชาด้านคงกระพันต่างๆจาก 2 ศิษย์เอกของหลวงพ่อกุน คือ หลวงพ่อม่วง วัดหนองกาทอง กับ หลวงปู่โต๊ะ วัดธ่อเจริญธรรม ซึ่งเป็นหลวงน้าของท่านโดยสายนี้ท่านยังได้ศึกษาเพิ่มเติมอีก จากอาจารย์ฆราวาสซึ่งมีศักดิ์เป็นลุงของท่านคือปู่หมอหนู ปู่หมอหนูนี้เป็นศิษย์ทั้งหลวงพ่อกุน วัดพระนอน และ หลวงพ่อชม วัดดอนกอก แต่เดิมปู่ท่านเรียนวิชากับหลวงพ่อกุนและช่วยหลวงพ่อกุนเขียนภาพรามเกียรติ์ที่ติดผนังโบสถ์วิหาร เขียนไปจนถึงตอนพระลักษณ์ถูกหอกโมกขศักดิ์ ปู่จึงเกิดอาการคลุ้มคลั่งเสียสติ พูดง่ายๆคือบ้านั่นเอง หลวงพ่อุนรักษายังไงๆก็ไม่หายในที่สุดจึงส่งปู่หมอหนูมาให้หลวงพ่อชม วัดดอนกอก ศิษย์ผู้น้องของท่านรักษาต่อ ปรากฎว่าหลวงพ่อชมรักษาหายเมื่อหายปู่หมอหนูจึงอุปัฎฐากรำ่เรียนวิชาการรักษาและวิชาอื่นๆจากหลวงพ่่อชมด้วย เรียกได้ว่า หลวงปู่ท่านสืบสายวัดพระนอนตัวจริงในยุคปัจจุบันเลยก็ว่าได้
4. สายหลวงพ่ออบ วัดถ้ำแก้ว เจ้าของวิชาชาตรี ตีไม่แตก หลวงปู่ทองพูนเป็นหลานหลวงพ่ออบ
5. สายหลวงพ่อทองศุข วัดโตนดหลวง นะปัดตลอด มหาอุตม์คงกระพัน จากหลวงพ่อจ่าง วัดเขื่อนเพชร ลูกผู้พี่ของท่าน

มาต่อกัน
6. สายหลวงพ่อพิมพ์(มาลัย มาลโย) วัดหุบมะกล่ำ เจ้าของวิชาเข็มทอง สมัยหลวงพ่อพิมพ์อยู่วัดทับใต้ได้ฝังเข็มทองให้หลวงปู่ด้วย
7. สายหลวงพ่อชม วัดดอนกอก ศิษย์ผู้น้องของหลวงพ่อกุน วัดพระนอน เจ้าของลูกสะกด หมากทุย พระปิดตาคลุกรัก วิชามหาอุตม์คงกระพัน ของท่านนักเลงบ้านลาดเชื่อมั่น หลวงพ่อชมมีศักดิ์เป็นหลวงตาของหลวงปู่ทองพูน
8. หลวงพ่อผิน วัดโพธิ์กรุ คงกระพันแคล้วคลาด หลวงพ่อผินเป็นเพื่อนสนิทของโยมพ่อหลวงปู่
9. สายหลวงพ่อเทพ วัดถ้ำรงค์ วิชามหาเมตตา เนื่องจากหลวงพ่อเทพเอ็นดูหลวงปู่ทองพูนตั้งแต่เป็นสามเณร ติดตามพระครูวิสุทธิเมธี วัดหมูสี ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์บวชเณรครั้งแรกของหลวงปู่และเป็นเจ้าคณะแขวงเดินทางมาแต่งตั้งหลวงพ่อเทพเป็นเจ้าอาวาสวัดถ้ำรงค์
10. สายหลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม เจ้าของวิชาโพธิสัตย์ บารมีสิบทัศน์ สาริกาลิ้นทอง จากหลวงพ่อเวก วัดศาลาหมูสี ศิษย์เอกรูปหนึ่งของหลวงพ่อเงิน เนื่องจากเมื่ออายุ 8 ขวบ โยมย่าพาท่านมาบวชเรอยู่กับพระพี่ชายที่วัดศาลาหมูสี ทำให้ท่านสนิทกับหลวงพ่อเวกซึ่งจำพรรษาอยู่ที่วัดนี้ ก่อนที่ปีต่อมาหลวงปู่จะหนีพระพี่ชายไปอยู่วัดปากน้ำและหลวงพ่อสดให้สึกและท่านเป็นอุปัชฌาย์บวชให้ใหม่ ภายหลังหลวงปู่กลับมาบ้านครั้งใดก็ไปกราบไปนอนกับหลวงพ่อเวกเป็นประจำ
นี่เป็นประวิติคราวๆของหลวงปู่ทองพูน ที่เเสดงให้เห็นว่าท่านคือของจรองไม่ได้ยกเมฆมั่ววิชา มีผู้หลักผู้ใหญ่หลายท่านโดยฌฉพาะสายัดปากน้ำรู้มานานเเล้วแวะเวียนไปขอธรรมจากท่านเป็นประจำ เห้นแบบนี้ท่านธุดงค์มามากแม้ปัจจุบันร่างกายก็ยังแข็งแรงอยู่เคยโปรดชาวลับแลเเละเข้าไปโลกของชาวลับแลมาแล้ว ท่านผ่านเรื่องอะไรมาเยอะมากเป็นสุดยอดครูบาอาจารย์แห่งยุคที่เก็บตัวเงียบอีกรูปหนึ่ง กราบบูชาคุณหลวงปู่ทองพูน แห่งถ้ำจำปาทอง สาธุๆๆๆ

มาดูรุปครูบาอาจารย์ของหลวงปู่กันบ้าง

ต่อไปก็เข้าเรื่องกันเลยดีกว่า นั่นคือวิชาไมยราพสะกดทัพ ของหลวงพ่อกุน วัดพระนอนนั่นเอง
การทำตะกรุดต่างๆเช่น ตะกรุดมหาระงับ ยังต้องพอกใบไม่รู้นอน 7 อย่าง (ยามหาระงับ) อันได้แก่ ใบระงับ กระเฉด สะมี กระทืบยอด แคขาว ชุมเห็ด ลูกใต้ใบ ผสมกับยางรักเข้าพอกหรือผสมกับยางรักทาทับเชือกที่ถักไว้ แต่ในปัจจุบันการพอกยาส่วนนี้ได้ขาดหายไป เพราะเกจิปัจจุบันไม่รู้ว่านยาบางตัว เลยไม่สามารถหาใบไม้รู้นอนทั้ง 7 อย่างได้ จึงตัดออกไปเฉยๆเสียอย่างงั้น อีกอย่างกลการลงที่สัมพันธ์กับอารมณ์ฌานในห้องกรรมฐานต่างๆก็ไม่มี เพราะท่านไม่รู้ฌาน ได้เเต่เพียงเขียนขอมไปเรื่อยแล้วก็ว่าคาถาเป่าๆไป เป็นแบบนี้จะให้ได้ตะกรุดมหาระงับที่มีพุทธคุณเหมือนดั่งตำราหรือเกจิยุคก่อนได้อย่างไร
ซ้ำร้ายยังมีการยกเมฆมาหลอกลวงกันอีก อย่างตะกรุดไมยราพสะกดทัพ ในสาย จ.เพชรบุรี มีการกุเรื่องแบบอวดรู้วิชาโดยไม่รู้จริงมานานเเล้ว โดยมีการเอาลงอินเตอร์เน็ตว่ายันต์ที่ลงในตะกรุดไมยราพสะกดทัพของหลวงพ่อกุน วัดพระนอน เป็นยันต์ยมสลักเกา

ต่อครับ
เอาตะกรุดที่มีการทำจากใครก็ไม่รู้ มาคลี่ให้ดู จากนั้นคนก็เชื่อกันไปทั้งเมืองถึงกับเอาไปทำกันเป็นผ้ายันต์บ้าง ลงตะกรุดบ้าง สำหรับท่านที่รู้จริงแล้วก็อดขำไม่ได้ เพราะพวกนี้สามารถทำให้วัดเชื่อได้คิดดูก็แล้วกัน(ข้อมูลตรงนี้ไม่ได้กล่าวลอยๆ แต่ไดมีการค้นคว้าติดตามเสาะหาตำรับตำราและสอบถามร่ำเรียนโดยตรงกับผู้สืบสายวิชาของหลวงพ่อกุน ทั้งฝ่ายพระและฆราวาส ซึ่งทุกท่านสืบสายวิชามาจริง) อีกทั้งบางรูปยังเป็นผู้ลงตะกรุดนี้เเทนหลวงพ่อกุนด้วย(เริ่มตาสว่างกันรึยังครับ) เนื่องจากในยุคหลังหลวงพ่อกุนท่านไม่ได้ทำตะกรุดเองท่านให้ศิษย์เขียนแทน ปัจจุบันตำราของท่านก็ยังอยู่(มีหลักฐาน)แต่ไม่ใช่ที่วัดพระนอน การที่หลวงพ่อกุนทำตะกรุดนี้ขึ้นมานับว่าเหมาะกับท่านเป็นอย่างยิ่งเพราะท่านเป็นเจ้าอาวาสวัดพระนอน และตะกรุดนี้ก็ใช้คาถาพระนอนเสก 56 ที ให้หลับเหมือนกัน

ติดตามอ่านกันหน่อยนะครับ
เดิมตะกรุดนี้ไม่ได้เรียกว่าไมยราพสะกดทัพ แต่มีผู้รู้ในวิชานำจุดเด่นของการทำตะกรุด ที่เกี่ยวข้องกับคำว่าไมยราพและอิทธิิคุณทางวิชาก็ส่งผลทำนองเดียวกับที่ไมยราพกระทำในวรรณกรรมรามเกียรติ์ตอนที่สะกดทหารลิงรวมถึงหนุมาน พระลักษณ์พระรามมาเรียกตะกรุดนี้ว่าตะกรุดไมยราพสะกดทัพ
เรื่องตะกรุดไมยราพสะกดทัพนี้ เห็นทีไรก็อดสงสารคนเช่าไม่ได้ เพราะมีคนผูกเรื่องผูกราวทำตะกรุดขายกันมานานหลายสิบปี จนปัจจุบันตะกรุดพวกนั้นมีความเก่าดูดีกันไปหมดเเล้ว แต่ถ้าหากจะหาเช่า คงต้องดูให้ละเอียด หากคลี่ยันต์ออกมาแล้วเป็นยันต์ยมสลักเกาก็อย่าไปเจ็บใจอะไรเลย บางคนโดนมาหลายหมื่น บางคนโดนมาหลายแสนถือเป็นค่าวิชาเตือนสติตนเอง ก็ใครใช้ให้หูเบาขาดวิจารณญาณ

ยันต์ยมสลักเกาก็เห็นๆกันอยู่ว่ามาจากรามเกียรติ์ หนุมานได้ไปกรุงลงกา ร่ายพระเวทย์สะกดให้เหล่ายักษ์หลับแล้วลอบเข้าไปในประสาท เห็นทศกัณฐ์นอนอยู่กับนางมณโฑเลยได้โอกาสแกลังเอาผมนางมณโฑผูกติดกับเศียรทศกัณฐ์ พร้อมกับเขียนคำสาปไว้ที่หน้าผากทศกัณฐ์ว่า หากอยากแก้ให้ผมหลุดต้องให้นางมณโฑตบหัวสามที
จากเค้าเรื่องนี้ทำให้เกิดคาถาและเลขยันต์เกี่ยวกับหนุมานขึ้นหลายอย่าง ยันต์ยมสลักเกานี้ก็เหมือนกัน ตำราว่ายันต์นี้ใช้ทางสะกด ด้านหน้ามีรูปหนุมานและทสกัณฐ์ผูกผมติดกับนางมณโฑ ด้านหลังก็เป็นนรูปทศกัณฐ์ผูกผมกับนางมณโฑ มีอักขระประกอบหลายอย่าง เมื่อจะทำให้ทำในคืนเพ็ญวันจันทร์ มีเครื่องบูชา ผู้จะลงให้นุ่ขาวห่มขาวถือศีลกินบวช รำลึกถึงครู ฤาษีตาไฟ ฤาษีนารอด ฤาษีกัสสปะและฤาษีอรชุน เมื่อสำเร็จแล้วใช้ทางสะกดแคล้วคลาดจากศาสตราวุธทั้งปวง

มาดูรูปยันต์ยมสลักเกาชัดๆกันเลยครับ

ยันต์ยมสลักเกา

ยันต์ยมสลักเกาไม่เกี่ยวข้องอะไรกับไมยราพเลย เข้าใจว่าคนที่คิดนำยันต์นี้มากล่าวว่าเป็นยันต์ไมยราพสะกดทัพ คงอยากรู้ว่าที่จริงยันต์ไมยราพสะกดทัพหน้าตาเป็นอย่างไร จึงไปเปิดหาในตำรายันต์ขงอาจารย์เทพ สาริกบุตร ที่พิมพ์ขายอยู่ทั่วไปว่าจะมีบ้างไหม ปรากฎว่าไม่มี แต่ไปพบยันต์ยมสลักเกาที่มีคาถาเกี่ยวกับการสะกดอยู่บ้างน่าจะเข้าเค้าจึงนำมาทึกทักว่าเปนวิชาไมยราพสะกดทัพ ทั้งๆที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกับไมยราพซักคำ มีแต่การยอหนุมาน (ซึ่งหากไปดูตอนไมยราพสะกดทัพจริงๆแล้ว หนุมานก็เสียทีไมยราพถูกสะกดไปด้วย) ดังนั้นหากจะตั้งชื่อยันต์ยมสลักเกาเสียใหม่ให้ดูน่าสนใจกันจริงๆแล้วควรจะตั้งชื่อว่าหนุมานสะกดทัพเสียมากกว่า ไม่ใช่ไมยราพสะกดทัพอย่างที่กล่าวอ้างถึง
วิชาไมยราพสะกดทัพนั้นปัจจุบันมีเพียงฆราวาสหนึ่งคนและพระเกจิหนึ่งรูปเท่านั้นที่สืบทอดอยู่ จากหลวงปู่โต๊ะ วัดท่อเจริญธรรม ศิษย์ผู้ลงตะกรุดไมยราพสะกดทัพแทนหลวงพ่อกุน วัดพระนอน แต่รูปร่างหน้าตารายละเอียดของยันต์ในหนังสือยังไม่ได้ลงเปิดเผย

ข้อมูลเหล่านี้ผมไม่ได้ยกเมฆหีือกกล่าวอ้างลอยๆเพื่อที่จะทำให้ใครเสียหาย ผมอ้างอิงจากหนังสืออิทธิฤทธิ์พระเกจิหลายๆฉบับรวมกัน เพราะเป็นเรื่องที่ผมสนใจอยู่พอดี และตะกรุดดอกนี้ผมก็กำลังตัดสินใจที่จะเช่าหาเหมือนกัน เมื่อเปิดข้อมูลมาแบบนี้เลยทำให้อึ้งนิดๆ
เพราะตะกรุดไมยราพสะกดทัพนั้นในอดีตคือสุดยอดตะกรุดของไทยที่หายากและเเพงกว่าตะกรุดโสฬสของหลววงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูงเสียอีก เมื่อมีการมั่ววิชายัดของขายเอาตะกรุดยมสลักเกามาขายเป็นไมยราพสะกดทัพ หลวงพ่อกุน วัดพระนอน ทำให้เกิดความสับสนอย่างมาก

เอาล่ะครับ ทีนี้มาดูเรื่องราวของหลวงปู่ทองพูนกันต่อ
ผมใช้คำพูดง่ายๆนะ ว่าหลวงปู่องค์นี้เก่งโคตรๆ ไม่รู้กระชับเกินไปมั้ย

ร่างกายหลวงปู่ก้ชราภาพมากแล้วแต่ยังเเข็งเเรงดีอยู่ครับ น่าชื่นชมจริงๆ

หลวงปู่ท่านกำลังสร้างพระใหญ่น่าถ้ำให้เเล้วเสร็จซึ่งพระองค์นี้ได้มีการบรรจะพระบรมสารีริกธาตุไปเรียบร้อยแล้ว

หลวงปู่เดินตรวจงานก่อสร้างอย่างขยันขันเเข็ง ท่านทำเองครับ ตอนนี้หาปัจจัยสร้างกุฎิสงฆ์ พี่น้องไปร่วมกันทำบุญได้นะครับ จะได้กันทั้งบุญและของดีเลย

ใบหน้าของท่านครับ ที่ผ่านการฝึกปฎิบัติกรรมฐานมาอย่างยาวนาน มองทีไรก็เห็นว่าแอบแฝงไปด้วยความเมตตาที่สูงมาก