ประสบการณ์แบบ แพะๆ

มาร่วมคอนเฟริมว่าแพะหลวงพ่ออาด
นั้นเยี่ยมจริงๆครับ

คอนเฟิมนี่ เจออะไรดีๆมาเล่าบ้างสิ อิอิ

สวดยวดดด

นี่แหละครับ แพะของหลวงพ่ออาด
ของผมเป็นแบบธรรมดา ตะกรุดสาริกา1ดอก
ของดี พุทธคุณสมคำอวดอ้าง
แต่ราคาจับต้องได้ครับ^^

ว้าว ผมห่อทิชชู่พกกะเเพะเขาควายเเกะหลวงพ่อดำ แรมากครับขนาดไม่เลี่ยม
เด็กคนเก่าๆโทรหาเฉยเลย คนที่ได้เบอมาก็ชวนไปนอนห้องง้อเราซะเว่อ
เเถมยังมีพญาบาลทหารเรือมาเล่นด้วยพร้อมจะคบกะเราอีก แพะรุ่นนี้มันไม่ธรรมดาจริงๆครับ

ประสบการณ์ดีแบบนี้ต้องมีไว้ในครอบครองบ้างแล้วครับ

มายั่วต่อมอยากกันจัง.....อย่างนี้ต้องห่อตะบึงรถไปแถวบางละมุงสักวันซะแล้วเรา...

     ต้องลองหน่อยแล้วของดีราคาถูก   

ของราคาถูกในวันนี้ อาจจะเเรงในวันหน้าได้
มานั่งคิดๆดู แพะท่านเหลียวหลังเป็นเอกลักษณ์ดี หล่อได้สวยไม่ทับรอบครูบาอาจารย์
ที่ท่านบอกว่าเสกมีตัวจนไล่ปี้กันคงไม่เกินจริง จากประสบการณ์ที่ใช้ดู
แล้วผงที่อุดก็สุดยอดคนเบี้ยน้อยอยากมีหอยเยอะแบบเราๆจะหาได้จากที่ไหน
มีตั้งเเต่ผงหลวงปู่แก้ว วัดเครือวัล ซึ่งปิดตาท่านองค์เป็นล้าน ผงเขาควายเผือกฟ้าผ่า ผงไม้แหย่แย้ ดอกบัวผึ้งรุม
ผงที่หลวงพ่อลบเองทั้งนางอกแตก นางใจอ่อน แถมยังมีสสีผึ้งเจ็ดจันทร์ของหลวงพ่อเริ่ม ปรโม วัดจุกกะเฌอที่โด่งดังอีก
ผสมกันอุดเเพะ เหมือนใช้องค์เดียวเเต่รวมมวลสารชั้นครูไว้เพียบ

วันนี้มีเรื่องแปลกๆ ทั้งตัวมีเเต่แพะสองตัวคือแพะหลวงปู่อาดและเเพะเขาควายเผือกฟ้าผ่าหลวงพ่อดำ วัดเขาพูลทอง
ห่อทั้งสองใส่ทิชชู่พกไว้ในกางเกง เริ่มจากวันนี้นั่งรถเม เราก็สลึมสลือ พอเหลือบไปเห็นข้างๆมีน้องคนหนึ่งตัวเล็กๆหน้าหวานมากๆมานั่งอยู่ข้างเราถือเเมคเเละของกินหลายถุงเต็มมือ ด้วยความบ้า(หน้าด้านนิดๆ)เอามือสะกิดแพะนึกถึงดวงวิญญาณหลวงพ่อดำและนึกถึงหลวงปู่อาจทันที เสร็จเล้วเอาโทรสับมือถือพิมคำว่า มีแฟนรึยังคับเเล้วก้อวางไว้บนตักกะให้น้องเค้าเห็น
เหลือเชื่อครับ น้องเค้านั่งห่างเรานะประมาณว่ามีช่องไฟพอสะกิดแพะเเล้วอยู่่ดีๆเค้าเบียดเราเฉยเลยทำให้มองเหนไอ้ที่เราพิมไว้ในโทรศัพท์ สรุปผลคือได้เบอร์ได้คุยเเบบไม่น่าเชื่อ
พอลงรถเมมาขึ้นสะพานลอยจะเข้าบ้านเจอผู้หญิงคนหนึ่งที่เดินสวนกันบ่อยๆเราแอบชอบเค้ามานานเเล้ว ปกติเราจะเป็นฝ่ายมอง เค้าจะหลบสายตา แต่วันนี้เค้ามองเราก่อนเเล้วยิ้มด้วย ปกตินี่หน้ามู่อย่างกะตูดหมา แปลกมากตั้งเเต่พกแพะชุดนี้ พอกลับถึงบ้านเลยเดินไปร้านเลี่ยมพระเลย ช่างถามว่าเห็นปกติห้อยเเต่พระคิดยังไงจะห้อยแพะ ผมสั่งช่างทำสามห่วงเเพะหลวงพ่อดำแล้วทำลายแพะหลวงปู่อาด ก็นั่งรอไปซักพักมีผู้หญิงคนหนึ่งใสขาสั้นโชว์ขาขาวๆเนื้ออ่อนๆเส้อยืดรัดรูปน่าหมวยๆมายืนไกล้ๆเราก้อชอบเลย แนวนี้เป๊กกู หยิบแพะที่กำลังเลี่ยมมาลูบๆคลำๆ อาการผู้หญิงเริ่มออกอีกแล้วหันมายิ้มส่งตาหวานเยิ้มเราก็ยิ้มตอบแต่ที่ไหนได้ประมาณซัก3นาที ผัวแกขับมอไซมารับหน้าอุบาทมากเสียดายของ แทนที่จะได้สาวเกือบได้ตีนดีนะชะลอๆความไวเอาไว้อยู่
เเต่ก็ถือว่าแพะชุดนี้เเรงมากสมกับคำว่าเหลียวหลังเลย หรือเป็นเพราะมีแพะหลวงพ่อดำด้วยก็ไม่รู้ หลวงพ่อดำท่านสำเร็จวิชาสีผึ้งพญาการะเวก แพะท่านจะเอามาเเช่สีผึ้งเเละน้ำมันพญาการะเวกไว้ท่านสร้างไว้เพียงรุ่นเดียวใช้เขาควายเผือกฟ้าผ่าทำตามตำราหลวงพ่ออ่ำ วัดหนองกระบอก แพะของท่านเล่นง่ายเพราะมีตอกโค้ดตอกเลขสร้างน้อยมากเพราะท่านทำครั้งเดียวในชีวิตมีไม่เกิน300อง๕ืหรือร้อยกว่าองค์ผมเองก็จำไม่ได้ ต่างจากแพะองค์อื่นปลอมรึเปล่ายังไม่รู้ต้องอาศัยความเชื่อใจล้วนๆ

วิชาแพะ 555...สุดยอด

อันว่าวิชาแพะนั้นมีจุดกำเหนิดแหล่งเดียวกันกับเสือหลวงพ่อปานวัดบางเหี้ย ต้นตำหรับสายวิชาคือหลวงพ่อแตง วัดอ่างศิลา หลวงพ่ออ่ำ เรือเก่า จริงๆเริ่มแรกเดิมทีท่านก็มาขอเรียนวิชาเสือจากหลวงพ่อแตงเฉกเช่นหลวงพ่อปาน แต่เมื่อหลวงพ่อแตงใช้ญาณตรวจสอบก็พบว่าจริตของหลวงพ่ออ่ำไม่ได้ไปทางมหาอำนาจ จึงถ่ายทอดวิชาการสร้างแพะให้แทน โดยตามตำราระบุว่าแพะต้องสร้างจากเขาควายฟ้าผ่าและต้องเสกเรียกรูปเรียกนามให้มีจิตวิญญาณแพะและขยับได้ถึงจะใช้ได้และผู้เสกต้องเพ่งกสินจนสามารถอ่านหนังสือในที่มืดได้ และในยุคนั้นยังมีเกจิอีกรูปที่สามารถเสกแพะจนขยับได้คือหลวงพ่องวงศ์วัดบ้านค่ายซึ่งท่านก็เสกแพะจนวิ่งออกไปจากกุฏิได้ สัณนิฐานว่าท่านคงได้วิชาจากหลวงพ่อแตงเช่นกัน ยุคต่อมาก็เป็นหลวงพ่อลัดวัดหนองกระบอกซึ่งสำเร็จทั้งวิชาแพะและสีผึ้งเจ็ดจันทร์ซึ่งหลวงพ่อลัดเองไม่เพียงเรียนวิชาจากหลวงพ่ออ่ำเท่านั้นหลวงพ่อลัดท่านยังแวะเวียนไปสอบวิชากับหลวงพ่อวงศ์วัดบ้านค่ายอีกด้วย และในยุคนั้นก็คงจะขาดหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ไม่ได้ซึ่งท่านก็เคยสร้างแพะไว้ด้วยแต่สร้างไว้เพียงแค่ครั้งเดียว ส่วนหลวงพ่อเริ่มก็ได้ไปเรียนวิชากับหลวงพ่ออ่ำและสำเร็จวิชาสีผึ้งเจ็ดจันทร์ และยุคสุดท้ายก็มีหลวงพ่อสินวัดละหารใหญ่ที่ได้ไปเรียนวิชาจากหลวงพ่อลัด วัดหนองกระบอก ซึ่งปัจจุบันท่านก็ยังเสกแพะอยู่ครับ