สีผึ้งเขียว ชั้น 7 สุดยอดสีผึ้งเมตตามหาเสน่ห์ ไม่มีภูติพรายแต่ฤทธิ์แรงกว่าภูติพร

ปูเสื่อรอ ซื้อขนมมาเตรียมไว้ กระทู้นี้ยาวแน่ๆ{:2_40:}

คนใดว่าตนดี คนนั้นยังไม่ดี ใครว่าตนวิเศษวิโส
หรือฉลาดเฉียบแหลม คนนั้นคือ คนโง่



•"เป็นสิ่งสุดวิสัย ที่จะเอาชนะคนโง่เขลา เบาปัญญา ด้วยการโต้แย้ง"

•พระพุทธเจ้าตรัส "เวร (ความเกลียด ความพยาบาท) ย่อมไม่ระงับด้วยเวร แต่ระงับด้วยความรัก" และทำนองเดียวกัน ความไม่เข้าใจต่อกัน ย่อมจะไม่ระงับด้วยการโต้แย้ง แต่ด้วยความรู้จักผ่อนสั้นผ่อนยาว ความสุขุมรอบคอบ ความประนีประนอม และความเห็นอกเห็นใจ ซึ่งจะช่วยให้มองเห็นแง่คิดของอีกฝ่ายหนึ่งได้

ในนี้ไม่ได้มีใครว่าตัวเองดีหรือว่าคนอื่นไม่ดีเลย เพียงแต่ต้องการข้อเท็จจริงเท่านั้น การนำข้อธรรมของท่านมาเพื่อตอบคำถามนี้ไม่ใช่แนวทางที่ถูกต้องเลยนะครับมันไม่ตรงประเด็น ไม่ได้ช่วยอะไรเลย ในเมื่อท่านนำวัตถุมงคลมาขายแต่เมื่อคนซื้อคือลูกค้าต้องการข้อเท็จจริงเกิดความสงสัยขึ้นมา อยากรู้ที่ไปที่มาท่านต้องตอบได้อธิบายได้สิ ทีประสบการณ์ท่านเขียนกัน 10 เว็บยังเขียนได้เลย แค่นี้ไขข้อข้องใจไม่ได้แล้วต่อไปผู้บริโภคจะได้รับความเป็นธรรมหรือ? หรือสักแต่จะขาย เอาเงินอย่างเดียว อย่างนี้ผมว่าไม่ถูกนะครับ ทุกคนหาเงินมาด้วยความยากลำบากนะครับ เวรกรรมมีจริงนะครับ

ผมได้อธิบายเพราะมีคนอยากฟังคำอธิบาย   ผมได้อธิบายไปบางส่วนแล้วในเว็บที่ถูกกล่าวถึงครับ   ที่ผมไม่โต้แต่แรก ก็เพราะอย่างนี้แหละครับเพราะอธิบายไปมีกลุ่มบุคคลก็ แถ นั่งเทียนไปเรื่อย ทีอ่านกันจริงๆคนมีปํญญาก็น่าจะมอง ออกครับว่าเหตุผลกับอคติคืออะไร  

http://khalong.com/board2/viewth ... p;extra=&page=1
ผมเห็นคุณเจมส์ มาแก้ต่าง ให้หลายๆคน  ตกลงคุณเป็นคนขายของหรือเป็นใครหรือครับคุณเจมส์
ถ้าคุณเป็นคนขายของ แล้วใครจ้างคุณมาหรือเปล่า  นี่ถ้าคุณขายเฉยๆ  ไม่เชียร์ของจนขาดจิตสำนึก
ผมว่าเรื่องมันก็ไม่มีอะไร  ผมสังเกตุดูหลายๆกระทู้ ถ้ามีใครใช้ของที่คุณขายไม่ได้ผล ..คุณจะออกมา
แก้ต่างทันที  มีหลายคนในเวปนู้น ใช้ไม่ได้ผล คุณน่าจะรับฟังแล้วก็น้อมรับ แล้วพิจรณาว่าควรขายของ
นั้นต่อหรือไม่ เมื่อกระแสมวลชนเค้าบอกว่ามันไม่ดี  แต่นี่คุณกลับตอบโต้แล้วพยายามบอกว่า คนเอา
ไปใช้ใช้ไม่เป็น    แล้วทำเหมือนว่า ไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ใครแถ...ครับท่าน ผมว่าท่านแถมากกว่านะ แถเพื่อให้ขายของได้ แถมาตั้งนานพึ่งแถเรื่องซากงูที่ในรายละเีอียดวัตถุมงคลของท่านบอกเป็นเกร็ดเป็นเนื้อพญานาค อันนี้มันหลอกลวงต้มตุ๋นคนซื้อชัดๆ สรุปเป็นซากงูใช่มั้ย แล้วเรื่องที่กล่าวอ้างว่าเป็นศิษย์อาจารย์นู่นนี่นั่นหล่ะ ถ้าของจริงท่านต้องตอบได้หมดทุกคำถาม นี่ถ้าเป็นอาจารย์ผมนะถ้าท่านเก่งจริงไม่โม้ผมจะหาข้อมูลหาหลักฐานมาให้ดูจนถึงที่สุดเลยหล่ะครับ

ผมเห็นคุณเจมส์ มาแก้ต่าง ให้หลายๆคน  ตกลงคุณเป็นคนข ...
ต้นฉบับโพสโดย nax13 เมื่อ 22-4-2012 22:49

                               
สมัครสมาชิก / เข้าสู่ระบบ เพื่อดูภาพขนาดใหญ่

ก็ถ้าเราๆท่านๆใช้วัตถุมงคลแล้วเงียบเชียบ ไม่ได้ผล แถมซวยอีกต่างหาก ท่านเจมส์ของเราก็จะออกมาเตือนด้วยความหวังดีว่า "ไสยศาสตร์เป็นเพียงตัวหนุนเท่านั้นตัวผู้ใช้เองก็ต้องปรับปรุงตัวเองด้วยเรื่องบุคลิกภาพ มารยาท การแต่งตัว การพูดจา เมื่อพวกนี้ดีแล้วที่เหลือเค้าจะเสริมให้ บางท่านเข้าใจว่ามีของเสน่ห์แล้วแฟนต้องรัก แฟนต้องหลง เพศตรงข้ามหรือเพศเดียวกันเข้ามาเอง ซึ่งเป็นเรื่องเข้าใจผิดบางครั้งเราต้องเข้าไปหาเขาบ้าง ลองดูครับ เพราะเดี๋ยวนี้คนเราเข้าใจไสยศาสตร์ผิดกันไปมาก" อยากจะร้องดังๆว่าถ้าคนที่พึ่งพาวัตถุมงคลมีอย่างที่ท่านเจมส์กล่าวมาหมดแล้วจะต้องใช้วัตถุมงคลราคาหลักหมื่นบาทหรือหลักหลายพันบาทของพวกท่านทำไมหล่ะครับ อาทิ สีผึ้งตลับทองเหลืองตลับละเป็นหมื่น อะไรต่อมิอะไร ที่ใช้แล้วสุดจะเงียบ แถมซวยอีกต่างหาก

อวิชชา คือความไม่รู้ ลดทิฐิลงสักนิด ยอมเสียหน้าสักหน่อย เพื่อประโยชน์ต่อส่วนรวมครับ


คนเราไม่มีใครไม่เคยผิดพลาดครับ


เอาใจช่วยครับ


*-*

ตาเจมส์นี่เจ้ากรรมนายเวรเยอะจังนะ เห็นมาหลายกระทู้และ

ไปๆมาๆเรื่องนี้จะกลายเป็น
มหากาพย์แห่งสีผึ้ง
ไปแร้ววว คร๊าบบบ

สงสารพี่เจมส์จังครับ โดนหลายกระทู้เเล้ว เเต่พี่ก็บอกเลยครับให้มันกระจ่างไป

เผื่อความสบายใจของทั้งสองฝ่ายนะครับ

******คนไทยด้วยกันมีอะไรควรเปิดใจ ปรองดอกกันนะครับ*****

มีประสบการณ์ตรงจากน้องคนนึงบังเอิญ PM มาหาผมครับ ไม่กล้าโพสต์เอง ผมเป็นสื่อกลางให้แล้วกันครับ

"พี่ครับผมมาอ่านกระทู้นี้แล้วมันโมโหยังไงไม่รู้ รวมทั้งกระทู้ในเวป......อีก มันเหมือนผมโดนหลอกยังงั้นเลย ....
เรื่องมันก็มีอยู่ว่า(วันนี้เลย วันอาทิตย์ที่ 22 เมษยน 2555) ผมมีตลับสีผึ่งเขียวของ อ.ออ แล้วก็พ่องั่งรุ่นสี่
ไปอ่านดูเวป......มีคนบอกว่า ถ้าของอ.ออแล้วถือว่าเป็นความซวยของท่าน ประมาณนี้หนะครับผมก็เลย เซงเลยผมก็ไม่สนละ ไปเอาสีผึ้งมา เปิดดูตะกรุดที่ติดมาดู
ปรากฏว่า เป็นรูปปั้มเป็นรูปอะไรซักอย่างแล้วเขียนว่า พุทโธรักษา อะไรประมาณนี้
ผมก็...เอาแล้วไง ไม่ใช่ตัว"นะ"ด้วย (ตัวนะที่เขียนเป็นอักษร ขอม หนะครับ เพราะถ้ามีตัวนี้ผมก็ยังเชื่อศรัทธาอยู่แต่นี่ไม่ใช่ เลย เพราะถ้าตัวนะ ตัวเดียว สรรพคุณก็ยากจะบรรยาย พี่ก็รู้อยู่ใช่ไหมครับ เพราะเรื่องอักษรขอมนี่ผมก็เคยศึกษา ยิ่งผ้ายันต์นี่ผมอ่านออกเกือบทุกตัว แต่นี่เป็นรูปอะไรก็ไม่รู =,= ) แล้วไม่ใช่อะไรนะครับ เป็นสนิมอีก ผมละเซงจิต
ไม่ใช่แค่นั้นนะครับ ผมก็เอาพลอยที่อยู่ข้างในไปล้างดู มันคล้าย ๆ กับอะไรซักอย่าพลาสติดก็ไม่เชิง เหมือนมันมีรอยเชื่อมกัน พี่ก็รู้อยู่ใช่ไหมครับ
ล้างเสร็จผมก็เอาพลอยเข้าปากลองกัด แตกครับแตกเลย ยังไม่แค่นั้นครับ มันแตกบางส่วน เดินถืออกมามันเล็กหนะครับทำหลุดมืออีก! ตกพื้นแตกอีก! เอ๊ะยังไง พลอยอะไรเนี่ย ตอนนั้นโมโหและ เหมือนคนโง่
เอาเม็ดพลอยมาไว้บนตู้เย็น แล้วเอาตูดปากกาทุบเลย กระเด็นแตกอีก (ทุบด้วยอารมณ์โมโหเลยตอนนั้น) ผมก็เซงอีกตามเคย
มองไปตรงพ่องั้งที่บูชามา ผมก็เอาทั้งสีผึ้งและพ่องั่งมาไว้ในมือ แล้วก็อธิษฐานขออำนาจ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เสด็จพ่อท่านท้าวเวสสุวรรณ เสด็จพ่อท้าวมหาพรหมชินนะปัญจะระ และศักดิ์สิทธิ์ ทั้งหลายจงดลบันดาล บุญกุศลของข้าพเจ้า ทั้งหลายที่ได้สั่งสมบุญมา ขออุทิศให้ โหงพรายแล้วดวงจิตดวงวิญญาณ ทั้งหลายที่อยู่ในวัตถุมงคง ทั้งสองชินนี้จงมีความสุข แล้วได้ไปพุดไปเกิด ไปสู่ที่ชอบ ๆ ฯลฯ ประมาณนี้หนะครับ แล้วผมก็เอาวัตถุสองขิ้นนี้ไปทิ้งถังขยะข้างล่าง ส่วนตะกรุตสนิมเกาะกับพลอยแตก ผมเก็บไว้เดียวถ่ายรูปมาให้ดูครับ
ถ้าพี่จะเอาเรื่องของผมไปเผยแพร่ผมก็ยินดีครับ แต่ขอสงวนไอดีของผมนะครับ กลัวเสียหาย"

พลอยที่บอกว่าถ้าเอาออกแล้วสีผึ้งจะงอก แต่ผมดูแล้วมันไม่น่าจะใช่พลอยนะครับ แต่พลาสติกถ้าเอาออกจะทำให้สีผึ้งงอกได้ไง ท่านใดลองแล้วช่วยบอกด้วยนะครับ ส่วนอักขระที่เขียนลงบนแผ่นตะกรุดนั้นยิ่งไม่ต้องพูดถึงเป็นภาษาของกาแล๊กซี่ไหนก็ไม่รู้ ไม่มีใครรู้ว่าคืออะไรครับ

{:2_38:}{:2_38:}

ขอตอบแทนท่านเจมส์เมตตาปู่(รู้ว่าเค้าจะเอาข้อธรรมมาโพสตือีก) ถ้าหากว่าตัวเองเป็นผู้มีปัญญากว่าผู้อื่น ท่านก็ชี้แจงสิ ทำได้เท่านี้เหรอครับ ท่านต้องตอบตรงประเด็นสิครับ ไม่ใช่ว่าตอบแบบเลื่อนลอยไม่มีเป้าหมาย

คนใดว่าตนดี คนนั้นยังไม่ดี ใครว่าตนวิเศษวิโส
หรือฉลาดเฉียบแหลม คนนั้นคือ คนโง่

•"เป็นสิ่งสุดวิสัย ที่จะเอาชนะคนโง่เขลา เบาปัญญา ด้วยการโต้แย้ง"

•พระพุทธเจ้าตรัส "เวร (ความเกลียด ความพยาบาท) ย่อมไม่ระงับด้วยเวร แต่ระงับด้วยความรัก" และทำนองเดียวกัน ความไม่เข้าใจต่อกัน ย่อมจะไม่ระงับด้วยการโต้แย้ง แต่ด้วยความรู้จักผ่อนสั้นผ่อนยาว ความสุขุมรอบคอบ ความประนีประนอม และความเห็นอกเห็นใจ ซึ่งจะช่วยให้มองเห็นแง่คิดของอีกฝ่ายหนึ่งได้