เรื่องผีกะครับ(มันเป็นผีทางเหนือ)ผู้โพสต์ประสบมากับตา

ผีกะ
ในส่วนของนกเค้าแมว มีนกเค้าแมวชนิดหนึ่ง เรียกว่า "นกเค้าผีกะ" ลักษณะตัวเล็กร้องเสียงดัง "กู๊กแม้ม ๆๆ" เป็นพาหนะนำพาผีกะไปหากินในที่ต่าง ๆ แต่ก็มีบางถิ่นเชื่อว่า นกเค้าแมวดังกล่าวเป็นศัตรูกับผีกะ เมื่อผีกะไปที่ใด นกนี้จะไปปรากฏตัวเพื่อต่อต้านและประจานให้คนทราบ อย่างไรเสียก็เป็นอันทราบกันดีว่า นกเค้าแมวชนิดนี้หากไปปรากฏ ณ ที่ใดหรือไปส่งเสียงร้องบริเวณบ้านเรือนหลังไหน แสดงว่าภัยจากผีกะกำลังจะบังเกิดที่นั่น
ส่วนสัตว์ที่เป็นภูติ ได้แก่ "วอก" ซึ่งเป็นภูติคอยดูแลหญิงสาวที่เป็นผีกะอย่างใกล้ชิด คนธรรมดาไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่าได้ นอกจากใช้วิธีการบางอย่าง อย่างเช่น ชาวบ้านที่ไม่ต้องการให้ชายหนุ่มซึ่งเป็นบุตรหลานของตนไปข้องแวะ คบหาหรือแต่งงานกับหญิงสาวในตระกูลผีกะ จึงมักแนะนำให้ลองสังเกตดูว่าสาวที่หมายปองนั้นเป็นผีกะหรือไม่ ให้นำ "ตองกล้วยงำเครือ" คือใบตองของยอดตองกล้วยที่แผ่ใบปกเครือกล้วยอยู่ นำมาเสกเป่าด้วยคาถา แล้วมองผ่านลอดใบกล้วยนั้น ซึ่งบางแห่งว่าให้ใช้ใบพลูก็ได้ และบ้างก็ว่าเพียงก้มมองลอดหว่างขาของตน จะพบว่ามีวอก ๒ ตัว อยู่ข้างหญิงสาว วอกทั้งสองจะคลอเคลียและแลบลิ้นเลียบริเวณแก้มและใบหน้าหญิงสาวให้ดูงดงามผุดผ่องอยู่เสมอ กล่าวกันว่า ยิ่งดึกสาวเจ้าจะงดงามชวนให้ลุ่มหลงขึ้นเรื่อย ๆ
การเข้าสิง
ผีกะ มักจะเลือกเข้าสิงคนขวัญอ่อน คนผมหอม ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสตรีมีอายุ เมื่อผีกะเข้าสิง คนที่ถูกสิงจะมีอาการพูดเพ้อเจ้อ ขาดสติ มีพฤติกรรมและบุคลิกภาพต่างจากเดิม ผู้ถูกสิงบางคน ญาติไม่ทันสังเกต จนถูกผีสิงอยู่เป็นระยะเวลานาน ถึงกับล้มป่วย ซูบซีดเพราะผีเกาะกินตับไตไส้พุงจนกระทั่งเสียชีวิต
พิธีขับไล่ผีกะ
เมื่อทราบว่ามีผีกะเข้าสิงผู้ใด ญาติจะไปขอ "พ่อหมอ" ที่เก่งวิทยาคมมาช่วยขับไล่ผีให้ออกจากร่างคน ซึ่งพ่อหมอแต่ละคนอาจใช้วิธีการต่าง ๆ ประกอบพิธีขับไล่ เช่น ให้ดื่มน้ำ ใช้น้ำมนต์หรือข้าวสารซัด เฆี่ยนตี ขูดหัวหม้อ มัดคอ ใช้มีดหมอหรือวัตถุอาคมแหกตลอดจนใช้ยาอาถรรพณ์ทำร้าย
การให้ดื่มน้ำหมอจะเสกน้ำด้วยอาคม เช่นบทหนึ่งว่า
อุ่ง ผุภิ มิดซั่น มั่นป่า กล่าตะละกล่า
อุ่ง สวาหะ ฯ
จากนั้นบังคับให้ผีดื่มน้ำมนต์ ผีบางแห่งดื่มแล้วร้องครวญครางก่อนออกจากร่างคน แต่บางแห่งผีไม่กลัวและไม่ยอมดื่ม พ่อหมออาจต้องใช้น้ำมนต์หรือข้าวสารซัด ตัวอย่างคาถาทำน้ำมนต์หรือเสกข้าวสาร เช่น
โอม ตะ มะ อุ
โอม จิเย จิต๋า สวาหาย ฯ
บางครั้งต้องใช้ก้านไพล ก้านข่าแดงหรือหางปลาไม (หางปลากระเบน) เฆี่ยนตี ดังตัวอย่างคาถาว่า
เหะ โส สา ภาวะต๋า สัพเพ ปิสา ปะรายันตุ ฯ
เหะ ดะ คะนะ ระสีมะณี สวาหะ ฯ
บางกรณีต้องใช้พิธี "ขูดหัวหม้อ" คือใช้หม้อแกงที่ใช้แล้วครอบศีรษะ แล้วใช้มีดขูดก้นหม้อ เชื่อว่าจะมีผลทำให้เจ้าของผีกะผมร่วงเป็นรูปอย่างที่ปรากฏตามรอยขูดบนก้นหม้อนั้น มีบางรายหมอใช้เชือกสายตะข้องหรือเตี่ยวหม้อนึ่ง (เศษผ้าขนาดยาวที่ใช้กั้นรอยต่อระหว่างหม้อกับไหสำหรับนึ่งข้าว) ผูกมัดบังคับให้ผีออก หมอบางท่านชำนาญไปทางพิธี "แหก" คือใช้มีดหมอหรือวัตถุอาคม เช่น หัวไพล งาช้าง เขาควาย นอแรด เสกแล้วแหกถูไถไปตามร่างกาย ตัวอย่างคาถาเสกมีดแหก เช่น
โอม โก๋โก๋ สัพพะ สะโย สวาหะ ฯ
กะตั๋ง บังกะละ ภะเว ฯ
นอกจากนี้ ยังพบว่ามีการใช้ยาอาถรรพณ์ เพื่อจัดการขั้นเด็ดขาด เช่นยาอาถรรพณ์ขนานหนึ่ง ท่านให้เอา "หวานรากปลิ้น หวานมหานิล พริกน้อย" ได้แก่ ว่านเพชรกลับ ว่านมหานิล เมล็ดพริกไทย ชั่งให้ได้น้ำหนักเท่ากัน แล้วป่นให้เป็นผงผสมกัน เสกด้วยคาถาว่า
อิติ สัฏฐิ ทังทัง พุธิ ลุสิ ขับป๊ะ ปิยัง ปิยา สวาหุม
ขะ ตะ มะ ดะ ทะปะนะ โอมหะ โอสวาหุม ฯ
คราวใดที่ผีกะเข้าสิงคน หมอจะใช้ยาผงอาถรรพณ์นี้ไล้ทาร่างของผู้ถูกผีสิง โดยลูบไล้ทาในลักษณะลูบขึ้นอย่างเดียว การกระทำเช่นนี้เชื่อว่าจะทำให้เจ้าของผีกะประสบผลร้าย ถึงขั้นเสียชีวิตในเวลาต่อมา วิธีนี้ถือว่าเป็นวิธีรุนแรง พ่อหมอจะหลีกเลี่ยงไปใช้วิธีอื่นแทนเสมอ
อนึ่ง ยังมีผีกะอีกประเภทหนึ่ง เป็นผีประเภท "อารักษ์ใหญ่" เรียกขานกันทั่วไปว่า "ผีกะยักษ์" มีหน้าที่เผ้ารักษาวัดร้าง เจดีย์เดิม กรุสมบัติ ป่าดงดิบ เป็นต้น ผีกะยักษ์เป็นผีที่มีฤทธิ์เดชมาก ปกติจะไม่ทำอันตรายแก่มนุษย์ แต่ถ้ามนุษย์เป็นผู้รุกรานก่อน เช่น ลักขุดสมบัติ ตัดไม้ใหญ่ หรือทำการใดที่ผิดป่าผิดธรรมชาติ ผีกะยักษ์จะทำร้ายให้ถึงแก่ชีวิตโดยพลัน ดังนั้นก่อนจะกระทำการใด ๆ กับสถานที่ที่มีผีกะยักษ์เฝ้ารักษาอยู่ ต้องมีพิธีเซ่นสรวงตามความเชื่อก่อนเสมอ

ถ้าอยากรู้ผมมีวิธีทดสอบง่ายๆ
ตองกล้วยงำเครือ คือใบกล้วยที่ปกอยู่บนเครือกล้วยนั้น ใช้เสกคาถาแล้วกั้นที่ใบหน้า เมื่อมองผ่านออกไปยังสาวที่เป็นผีกละแล้ว จะพบว่ามีลิงสองตัวเกาะที่บ่าคอยเลียแก้มให้นวลปลั่งอยู่เสมอ

ขอบคุณครับ น่ากัวจริงๆ เลย รู้ไว้จะได้ระวังตัวครับ

ขอบคุณครับ หวังว่าอย่าเจอกันเลย

ผมคนพื้นที่ครับ ผีกะนี่กลัวที่สุดก็เสือไฟ
บริเวรไหนก็ได้ของเสือไฟ เสือไฟเป็นสัตว์ที่มีอิทธิฤทธิ์ ตัวสีดำ ใต้ท้องเป็นสีเหลืองดำ พบตามป่าเขาลึกๆ

แล้วใช้คาถาอะไรในการตรวจสอบคะ