เมืองเสน่ห์กาหลง มหาเสน่ห์ มหาเมตตา มหานิยม
Khalong Amulet
17180
17
ซ่อนแถบด้านข้าง

วิชาธรรมเก้าโกฐิ

[คัดลอกลิงก์]
aazaza12 โพสต์เมื่อ 11-10-2011 18:16 | แสดงโพสต์ทั้งหมด |โหมดอ่าน
สวัสดีครับผม เคครับรบกวนท่านผู้รู้เรื่องวิชาธรรมเก้าโกฐิหน่อยครับ
การครองธรรม บทแรก คายครู ว่าอย่างไรครับรบกวนด้วยนะครับผม
ตัวเลขทั้ง 7 ในเบอร์มือถือ สามารถบ่งบอกนิสัยตัวตนของผู้ใช้ได้อย่างน่าอัศจรรย์ อย่ารอให้ชีวิตคุณดีก่อน แล้วค่อยเปลี่ยนเลขมือถือให้ดี คุณต้องเปลี่ยนเลขดีก่อน ชีวิตคุณถึงจะดี!! ตัวเลขเสียๆ มักดึงดูดพลังงานเสียๆ เข้ามาทำให้เราผิดหวังในชีวิต ตรงกันข้าม ตัวเลขดีๆ มักดึงดูดพลังงานด้านดีๆ เข้ามาในชีวิต ผนวกกับบุญกรรมเก่าของแต่ละคนว่าจะไปสุดที่ตรงไหน เลขบางตัวเหมาะกับคนหนึ่ง แต่เป็นเลขเสียกับอีกคนหนึ่ง ศาสตร์พลังงานเลขมือถือ บางส่วนอิงจากโหราศาสตร์ไทย บางส่วนมาจากการเก็บสถิติ ศาสตร์เลขมือถือต้องใช้ความเชี่ยวชาญ ในการวางตัวเลขมือถือให้เหมาะสม หลายคนเมื่อทราบผลการวิเคราะห์เบอร์มือถือของตนแล้วว่า ดี ร้าย อย่างไร แต่ยังพร้อมยอมทนใช้อยู่ ไม่รู้ทำไม เหตุผลง่ายนิดเดียว "เพราะทุกคนมีกรรมเป็นของตน" เมื่อถึงเวลา ฟ้าจะเปิดทางให้ท่านเปิดใจรับเรื่องมงคลดีๆ เข้ามาเสริมความรุ่งเรืองชีวิตท่านเอง จงจำไว้ ดวงคนเลือกเบอร์มาใช้เอง เบอร์ใครเบอร์มัน ไม่ซ้ำกัน หากท่านศรัทธาในศาสตร์พลังตัวเลขแล้ว ขออย่าลังเล หรือสงสัย อย่ารีรอทนใช้เบอร์เสียๆ เพื่อดึงดูดเรื่องร้ายๆ มารอเพื่อส่งผลแล้วค่อยเปลี่ยนเบอร์มือถือ วันนี้ คุณมีทางเลือกใช้ชีวิตแบบติดเทอร์โบได้ มัวช้าอยู่ทำไม? บริการวิเคราะห์เบอร์มือถือ วางเลขมงคล เรื่องการงาน การเงิน ความรัก โทร 09ุ ุ42282289 LINE ID: cholvibul
crazyaofza โพสต์เมื่อ 11-10-2011 20:23 | แสดงโพสต์ทั้งหมด
มาเก็บข้อมูลด้วยคนไม่เคยได้ยิน แฮะๆๆ
sclassic โพสต์เมื่อ 11-10-2011 21:17 | แสดงโพสต์ทั้งหมด
เอ๊ะๆ !!
หาตำราก่อน ..... แล้วจะมาบอกนะครับ
dark โพสต์เมื่อ 11-10-2011 23:45 | แสดงโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขล่าสุด dark เมื่อ 11-10-2011 23:47

ข้อมูลตรงส่วนนี้ขอคัดลอกมาจากข้อความของคุณธรรมปุ้ย แห่งบ้านจอมเวทย์ ซึ่งผมเป็นผู้ที่เคยตั้งคำถามเกี่ยวกับวิชาธรรมเก้าโกฏินี้ไว้เองนะครับ...

วิชาธรรมเก้าโกฏิ
ตามที่พระอาจารย์ท่านบอกตอนในห้วงแรก เมื่อฝากตัวเป็นศิษย์เพื่อเรียนธรรมนั้นว่า เป็นธรรมที่ใช้ในการป้องกันและปราบภูตผีปีศาจ และสิ่งที่ไม่ดีทั้งหลาย มีการเรียนเป็นห้อง ๆ โดยมีทั้งหมดจำนวน ๙ ห้อง ซึ่งศิษย์จะต้องเรียนไปทีละขั้น ซึ่งแต่ละคนนั้นจะมีห้วงเวลาสั้น-ยาว ของการเรียนแต่ละห้องไม่เท่ากัน โดยขึ้นอยู่กับบุญบารมีที่ได้สั่งสมและความตั้งใจในการศึกษา นั่นหมายความว่าไม่ใช่ทุกคนจะเรียนได้สำเร็จ และการสำเร็จนั้นก็ไม่อาจจะกำหนดได้ว่าเมื่อใด อาจจะปีสองปีหรือมากกว่านั้นครับ สำหรับห้องที่ครูบาอาจารย์จะสิทธ์ (ถ่ายทอด) ให้นั้น จะมีอยู่ ๘ ห้อง ซึ่งห้องที่ ๙ จะต้องไปค้นหาเอาเอง ซึ่งหากเรียนมาอย่างถูกต้องแล้ว ห้องสุดท้ายนี้ จะมาเองโดยอัตโนมัติ ซึ่งแต่ละคนจะได้มาไม่เหมือนกันครับ...

ส่วนห้องที่ ๙ ที่ผมได้มานั้น เป็นการได้มาแบบที่ไม่ใช่สำเร็จด้วยตน หากแต่ครูอาจารย์ท่านเมตตามอบให้ เพื่อใช้ในการทำตะกรุดยอดธรรมเก้าโกฏิ เพื่อสงเคราะห์คน ซึ่งมีเพียง ๗ คำเท่านั้นเอง ซึ่งถือเป็นยอดธรรมห้องที่ ๙ ที่พอจะเปิดเผยได้ก็คือ " ขึ้นด้วย ตะ ... ลงด้วยตะ " ครับ.
dark โพสต์เมื่อ 11-10-2011 23:50 | แสดงโพสต์ทั้งหมด
...แต่ละห้องก็เหมือนการเรียนคาถาหนึ่งบท ซึ่งมีฝอยการใช้ที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งหากผู้เรียนสามารถสำเร็จในแต่ละห้องได้ ก็สามารถนำออกมาใช้งานได้อย่างวิเศษนัก ซึ่งครูบาอาจารย์ท่านได้ว่างกุศโลบาย ให้ค่อยหัดเรียนเขียนอ่านไปจากง่ายไปสู่ยาก รวมถึงต้องคอยระมัดระวัง และดูแลศิษย์อย่างใกล้ชิด เพื่อให้ดวงธรรมและจิตของผู้เรียนเท่าทันกัน มิเช่นนั้นอาจจะวิปลาสได้...

แต่...ครูบาอาจารย์ก็จะให้คาถาธาตุเพื่อมาปรับธาตุ คาถาดวงธรรม รวมถึงคาถาภาวนาดวงธรรม เพื่อนำมาใช้สำหรับปั่นธรรม(บริกรรมคาถาธรรม) ซึ่งเราจะต้องหมั่นกระทำอยู่เป็นนิจด้วย...

ส่วนคาถาของแต่ละห้องนั้น มักจะแตกต่างกันตามครูผู้สอนครับ ดังคำโบราณอีสานที่ท่านกล่าวเอาไว้ว่า " หนังสือก้อมต่างคนต่างมี ก้อขี้ซีก้อนน้อย ก้อนใหญ่ ก้อนขี้ไก่ ก้อนแข่น ก้อนเหลว " อธิบายความนัยที่แฝงได้ว่า วิชาความรู้ต่าง ๆ รวมถึงคาถาอาจจะมีแตกต่างกันบ้าง แม้เป็นวิชาหรือคาถาเดียวกัน เป็นสิ่งปกติ ดังเช่นหนังสือตำราวิชา ซึ่งต่างคนต่างมี แม้กระทั่งก้อนขี้ซีและขี้ไก่ที่เป็นของธรรมชาติยังต่างกันครับ.
dark โพสต์เมื่อ 11-10-2011 23:59 | แสดงโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขล่าสุด dark เมื่อ 12-10-2011 00:10

ข้อมูลอ้างอิงตรงนี้มาจากอาจารย์ฤาษี เชียงใหม่ท่านหนึ่งนะครับ จึงขอขอบพระคุณมา ณ ที่นี้ด้วย...

วิชาธรรมเก้าโกฏินี้เป็นกรรมฐานโบราณ  วิชาธรรมเก้าโกฏิ แกร่งกร้าว กล้าแข็ง เป็นวิชาข่ม หรือวิชาปราบ แม้ธรรมห้องที่เยือกเย็นที่สุดของวิชาธรรมเก้าโกฏิ ที่ชื่อ “ มณีฟ้าหยาด ” ข้อห้ามของพระธรรมเก้าโกฏิมีอยู่ว่า ผู้จบธรรมห้องปาฏิหาริย์ จะไม่สืบทอดวิชาธรรมนี้แก่บุตร ผู้รับช่วงต่อคือหลานชายเท่านั้น และจะไม่สามารถใช้วิชานี้ช่วยเหลือคนในครอบครัวเดียวกันได้...

วิชาธรรมเก้าโกฏินั้นใช้เพื่อถอดถอนคุณไสย กันกระทำย่ำยีต่าง ๆ ผู้เรียนบางคนอาจมีญาณหยั่งรู้ได้ เกิดหูทิพย์ ตาทิพย์ จิตทิพย์ตามแต่บุญบารมีที่สั่งสมมาดั้งเดิมของแต่ละบุคคล โดยวิชานี้จะแบ่งเป็นห้องต่าง ๆ ตามแต่สายผู้สืบทอดว่าองค์ครูผู้ถ่ายทอดจะได้รับการถ่ายทอดมาทั้งหมดกี่ห้อง เพราะวิชานี้จะถ่ายทอดโดยลดห้องลงหนึ่งห้อง เมื่อการถ่ายทอดจะหมดลง ก็จะถือว่าวิชานี้จะสาปสูญไปจากโลกนี้เช่นกัน...

การเรียนวิชาธรรมเก้าโกฏิจะเริ่มต้นด้วย การบริกรรมคาถา ครูธรรมจะให้บทสวดมาหนึ่งบท ผู้ฝึกจะต้องท่องไปเรื่อย ๆ คล้าย ๆ จะสะกดตัวเองเพื่อเข้าสู่ภวังแต่เป็นเชิงเรียกวิชาเข้าตัว จนภาษาที่สวดเปลี่ยนเอง บ้างก็สวดเป็นภาษาเทพ บ้างก็ออกแนวเขมร ญวน จีน พม่า แม้แต่สันฤกต ฮินดู บาลี เรียกว่าการ " บันดาลธรรม " ซึ่งแต่ละคนจะไม่เหมือนกัน อยู่ที่ครูเราด้วยว่าจะยัดให้อย่างไร และครูบำเพ็ญมาแบบไหน ครั้งแรกครูจะสวดยัดพระคาถาเข้าตัวของผู้ฝึก ต่อจากนั้นผู้สวดจะต้องสวดต่อเอง จนเริ่มมีความชำนาญ และมีการพัฒนา ในการขึ้นชั้นระดับ ที่เหล่าหมอธรรมเรียกว่า การขึ้นห้อง หรือการเปลี่ยนห้อง การขึ้นห้องหรือการเปลี่ยนห้องนั้น จะกระทำกันในป่าลึกหรือภูเขา เพื่อเป็นการทดสอบระดับจิตของผู้ฝึกเอง จะต้องอยู่คนเดียวในเวลากลางคืน แต่ก็จะมีครูหรือรุ่นพี่คอยอยู่ใกล้ ๆ เมื่อเกิดเวลาคับขันจะได้เข้าช่วยเหลือทัน ถามว่าทำไมเป็นเช่นนั้น ก็เพราะว่า แรงของป่าหรือภูเขามักจะมีอาถรรพ์ ถ้าไม่ระวังให้ดีก็อาจจะเป็นบ้าหรือวิ่งตกเขาได้ มีคนถามว่าวิชานี้สามารถทำอะไรได้บ้าง ก็ตอบได้เลยว่า...สารพัด ทำได้ทุกอย่างถ้าจิตต้องการ เมื่อจิตมีพลังทุกอย่างก็สามารถเป็นไปได้หมด และอยู่ที่ว่าผู้ฝึกจะบรรลุหรือไม่เท่านั้นเอง.
dark โพสต์เมื่อ 12-10-2011 00:04 | แสดงโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขล่าสุด dark เมื่อ 12-10-2011 00:10

ขึ้นห้อง 1 ธรรมห้องปฐม

ขึ้นห้อง 2 ห้องลิ้นทอง

ขึ้นห้อง 3 ห้องปราบมาร

ขึ้นห้อง 4 ห้องแถนบัลลังค์ทอง

ขึ้นห้อง 5 ห้องพระเจ้า 5 พระองค์

6...
7...
8...
9...


ในการเปลี่ยนห้องธรรมแต่ละปี นอกจากขันคายครูจะเปลี่ยนไปแล้ว ครูบาอาจารย์ที่มาสอนธรรมก็จะเปลี่ยนไปด้วย และเมื่อเรียนถึงห้อง 7 ก็จะสามารถประสิทธิ์ธรรมหรือถ่ายทอดวิชาให้กับผู้อื่นได้...

โดยการเรียนเก้าโกฏิมีข้อห้ามดังนี้...

1. ห้ามยุ่งเกี่ยวกับภรรยาของผู้อื่น.

2. ห้ามถ่ายทอดให้กับลูก.

3. ห้ามใช้วิชาช่วยเหลือคนในครอบครัว.

4. ห้ามถ่ายทอดวิชาหากยังเรียนธรรมไม่ถึงห้อง 7

5. การถ่ายทอดวิชาจะต้องลดจากห้องที่ตัวเองสำเร็จลง 1 ห้อง คือถ้าสำเร็จ 10 ห้อง จะถ่ายทอดให้ผู้อื่นได้เพียง 9 ห้องเท่านั้น.
dark โพสต์เมื่อ 12-10-2011 00:07 | แสดงโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขล่าสุด dark เมื่อ 12-10-2011 00:09

- ขออธิบายแต่เพียงคร่าว ๆ เท่านี้นะครับ ที่เหลือคงต้องไปศึกษาค้นคว้าต่อเอาเอง เพราะของแบบนี้ต้องมีครู...อะไรที่นอกเหนือจากข้อมูลตรงนี้ ผมคงไม่สามารถอธิบายต่อได้อีก เพราะไม่ใช่สาย ไม่ใช่วิชา ไม่ใช่ทางของผม...
KHONSAKYAN โพสต์เมื่อ 12-10-2011 00:14 | แสดงโพสต์ทั้งหมด
ลึกมาก น่าสนใจครับ
dark โพสต์เมื่อ 12-10-2011 00:21 | แสดงโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขล่าสุด dark เมื่อ 12-10-2011 00:23

และในส่วนของกุมารเก้าโกฏิในสายหลวงปู่ชื่น วัดตาอี หรือพระเศรษฐีนวโกฏิ ก็ไม่ใช่วิชาธรรมเก้าโกฏินะครับ...ซึ่งกุมารทองเก้าโกฏิ...ตามที่เขียนและเรียกกันผิดกันมาตลอดนั้น ความจริงแล้วน่าจะเขียนว่า " กุมารเก้าโกศ " ต่างหาก เพราะต้องสร้างมาจากโกศใส่กระดูกเด็กที่ตายด้วยอาการต่าง ๆ ถึง 9 ประเภทตามตำรา แต่คำว่า " โกฏิ " หมายถึงจำนวนนับที่มีค่าถึง 10 ล้านเลยทีเดียว...
 เจ้าของ| aazaza12 โพสต์เมื่อ 12-10-2011 12:59 | แสดงโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณครับ
Knight โพสต์เมื่อ 12-10-2011 20:05 | แสดงโพสต์ทั้งหมด
ทราบมาว่าวิชาธรรมถ้าทำผิดครู ถึงขั้นเป็นปอบเลยนะ
Katy โพสต์เมื่อ 20-4-2012 09:22 | แสดงโพสต์ทั้งหมด
ธรรมบันดาล ธรรมบรรลุ และธรรมเก้าโกฐิ เป็นธรรมของพระพุธเจ้าไม่เกี่ยวกับการผิดครูแล้วเป็นปอบแต่อย่างใดเลย การที่จะรับธรรมที่กล่าวมานั้นจะต้องรับกับครูบาอาจารย์ ใครอยากจะรับก็ได้ โดยแต่งขันธ์ห้ารับก่อนแล้วครูบาอาจารย์จะพาสวดพุทโธๆไปเรื่อยๆและยัดธรรมจนผู้สวธรรม์สวดติดจะเป็นภาษาแบบไหนก็ตามแต่ละคนจะไม่เหมือนกัน แต่ต้องหมั่นสวดธรรม์บ่อยๆ จนติดแล้วภาษาที่สวดก็จะเปลี่ยนไปตามองค์ไหนหรือตามครูบาอาจารย์ที่มาเทียมเรา ส่วนการรับขันธ์ครองหรือการเปลี่ยนห้องก็ขึ้นอยู่กับครูบาอาจารย์ท่านจะดูว่าคนไหนควรจะขันธ์ครองซึ่งก็แล้วแต่บุคคล ว่าเราสวดได้ธรรมถึงห้องไหนแล้ว  เราต้องหมั่นสวดบ่อยๆจึงจะเห็นผล ถ้าขี้เกลียดสวดก็ไม่เกิดอะไรและไม่เป็นปอบแต่อย่างใด ถ้าใครที่เกิดมาแล้วมีองค์เทพต้องให้รับขันธ์เป็นร่างทรง ท่านสามารถหลีกเลี้ยงได้โดยการรับขันธ์ธรรมแทนพอท่านสวดธรรม์หรือเรียกอีกอย่างว่าปั่นธรรมบ่อยๆ ธรรมของพระพุทธเจ้าก็จะเข้ามาแทน จะกล่าวถึงครูบาอาจารย์แต่คงไม่ครบหมด ปู่ใหญ่,สำเร็จลุน,ปู่สิงขร,ปู่โพนเสม็ด,ครูบาศรีวิชัย      
ถ้าเราปั่นธรรมบ่อยๆเราสามารถเห็นอดีตและเห็นอนาคตได้ แต่ละคนที่เรียนธรรมจะได้ธรรมไม่เหมือนกัน ตัวอย่างเช่นบางคนได้ธรรมแก้ บางคนได้ธรรมส่อง แล้วแต่บุุคล  และครูบาอาจารย์จะพาลงควงครูปีละครั้ง เป็นการเชิญครูบาอาจารย์ในโลกทิทย์ลงมา และท่านจะบอกเราว่าเราเคยเกิดเป็นใครชื่ออะไร และเชิญพญาธรรมมาฟ้อนรำซึ่งก็แล้วแต่ว่าองค์ไหนใครสายญาณใดมาเทียมเราไม่ใช่ทรงเจ้าหรือองค์เทพแต่อย่างใดแต่เป็นพญาธรรมมิกราช ประสบการณ์ผู้เขียนเองลงค่วงครูครั้งที่แล้วปู่ใหญ่ลงมาเองโดยท่านจะมาเทียมครูบาอาจารย์ที่พาเราลงค่วง และพาองค์ที่เทียมเรารำถวายปู่ใหญ่ ก่อนที่ท่านจะกลับห้อง 1000 ตามที่ท่านบอก ปู่ก็จะให้โอวาทแก่ลูกหลานก่อนไป ส่วนมากคนเป็นสายส่งนาคจะร้องไห้ไม่อยากให้ท่านไปและปิติที่ได้เจอปู่ เล่าจากประสบการณ์จริง  เรื่องนี้เป็นความเชื่อของแต่ละบุคคลซึ่งผู้เขียนก็ได้เสวงหามาหลายที่หลายสายปฏิบัติจนมาเจอสายธรรมซึ่งส่วนตัวคิดว่าเป็นสายที่ถูกจริตกับตัวเองค่ะ ก่อนที่จะมารับธรรม์ก็ได้อธิฐานว่าขอให้เจอครูบาที่แท้จริงแล้ววันหนึ่งก็ได้เจอเองตามสายญาณ บางคนอาจจะไม่เข้าใจในสายธรรม์เพราะเป็นความเชื่อเฉพาะบุคคลค่ะ
TrampeR โพสต์เมื่อ 20-4-2012 12:53 | แสดงโพสต์ทั้งหมด
ตอบกลับ 8# dark


    สุดยอดเลยครับพี่ ข้อมูลแยอะดีจัง
คณิศร โพสต์เมื่อ 20-4-2012 14:11 | แสดงโพสต์ทั้งหมด
ได้ความรู้เยอะเลยครับ
คุณต้องเข้าสู่ระบบก่อนจึงจะสามารถตอบกลับโพสต์นี้ได้ เข้าสู่ระบบ | สมัครเป็นชาวเมืองเสน่ห์กาหลง

รายละเอียดเครดิต

ปิด

เว็บมาสเตอร์แนะนำย้อนกลับ /1 ถัดไป

รายชื่อผู้กระทำผิด|Archiver|Mobile|เมืองเสน่ห์กาหลง (Khalong Charming Town)

GMT+7, 29-3-2024 00:04 , Processed in 0.194699 second(s), 6 queries , File On.

Powered by Discuz! X3.4

© 2001-2017 Comsenz Inc.

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้