พระเครื่องไทยดัง เศรษฐีต่างชาติกว้านขอเช่าซื้อเชื่อมี "พุทธคุณ"
เผยต่างชาติ สุดนิยม ยอดพระเครื่องไทยชุด “เบญจภาคี” เชื่อมี “พุทธคุณ” ด้านแคล้วคลาด-เมตตา และชื่นชมใน “พุทธศิลป์” ล่าสุด เศรษฐีชาวจีน บุกเมืองจันทร์ ขอเช่า สมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ 3 องค์ 60 ล้าน ขณะที่บรรดาเซียนพระ ประสานเสียง พระเครื่องไทยดังไกลถึงต่างแดน เรื่องจริง ระบุมีอีกหลายชาติ ทั้ง ฮ่องกง-สิงคโปร์-มาเลเซีย-ญี่ปุ่น-บรูไน-ดูไบ-สวิสเซอร์แลนด์ ที่นิยมเสาะหาพระเครื่องไทยไว้ในครอบครอง
พระเครื่องไทยดังไกลถึงต่างแดน เปิดเผยขึ้นเมื่อวันที่ 3 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดเนินสมบูรณ์ ต.ทับช้าง อ.สอยดาว จ.จันทบุรี นายกวง กฤตยากร อายุ 76 ปี อดีตประธานชมรมผู้นิยมพระเครื่อง พระบูชา จ.จันทบุรี พร้อมด้วย นายโก ไซ และนายซี มัด หว่อง 2 นักธุรกิจจากสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนจีน ซึ่งประกอบธุรกิจภัตตาคารและส่งออกเครื่องใช้ไฟฟ้า เข้าพบพระวิชัย ชะยะธรรมโม เจ้า อาวาสวัดเนินสมบูรณ์ โดยนักธุรกิจชาวจีนขอชมพระเครื่องต่าง ๆ ประกอบด้วยพระสมเด็จวัดระฆัง พระนางพญา หลวงปู่ทวด รวมไปถึงพระเครื่องอื่น ๆ อีกนับร้อยองค์ ทั้งคู่ใช้เวลาตรวจสอบเนื้อพระเครื่อง ความเก่าแก่ ลักษณะศิลปะและลวดลายต่าง ๆ ในพระเครื่องอย่างถี่ถ้วนและสนใจ พร้อมกับวิพากษ์วิจารณ์พระเครื่องของพระวิชัย ต่าง ๆ นานา
หลังจากใช้เวลาตรวจสอบอยู่นาน ในที่สุด 2 นักธุรกิจชาวจีนประทับใจกับพระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ หรือพิมพ์ประธาน 3 องค์ โดยนายโก ไซและนายซี มัด หว่อง ได้ขอบูชา พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ทั้ง 3 องค์ในราคา 60 ล้านบาท โดยให้นายกวง ได้ช่วยแปลภาษาจีนเป็นภาษาไทยให้พระวิชัยฟัง แต่พระวิชัยระบุว่า อยากให้ทั้งคู่ช่วย บูชาพระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ทั้ง 3 องค์ 80 ล้านบาท เนื่องจากวงเงิน 60 ล้านบาท ไม่เพียงพอต่อการนำไปสร้างโบสถ์และบูรณ ปฏิสังขรณ์วัดเนินสมบูรณ์ที่ทรุดโทรม ทำให้ นายโก ไซ และนายซี มัด หว่อง บอกกับพระวิชัยว่า ขอกลับไปพิจารณาอีกครั้งและจะให้คำตอบในเร็ว ๆ นี้ แต่หากพระวิชัยให้เช่าบูชาในราคา 60 ล้านบาท ก็พร้อมจะเช่าบูชาทันที
นายกวง เปิดเผยว่า 2 นักธุรกิจชาวจีนดังกล่าว ประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจในประเทศจีน มีความสนใจสะสมสิ่งของมีค่าต่าง ๆ และพระเครื่องไทย โดยติดต่อมาที่ตนให้ช่วยเสาะหาพระเครื่องไทย เน้นเฉพาะพระเครื่องในชุด “เบญจภาคี” อาทิ “พระสมเด็จวัดระฆัง-พระสมเด็จบางขุนพรหม-พระสมเด็จเกศไชโย-พระนางพญาพิษณุโลก-พระซุ้มกอกำแพงเพชร-พระผงสุพรรณ-พระรอดวัดมหาวันลำพูน” ซึ่งในวงการพระถือว่าเป็นพระเครื่องที่หาได้ยาก และเป็นสุดยอดพระเครื่องไทย ตนทราบว่า พระวิชัยมีพระเครื่องที่ทั้งคู่ต้องการ จึงพามา หาพระวิชัย แต่การเจรจาเรื่องการเช่าบูชายังจะต้องมีกันอีกครั้ง เนื่องจากวงเงินสูงมากจึงไม่อาจจะจบลงได้ด้วยการตกลงเจรจากันเพียง ครั้งเดียว
นายกวง กล่าวต่อว่า ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา มีนักธุรกิจชาวจีนหลายสิบคน ที่มีฐานะทางการเงินมั่นคง เป็น “เศรษฐีใหม่ ในเมืองจีน” ให้ตนนำไปพบผู้ที่มีพระเครื่องเก่าแก่ เพื่อขอเช่าบูชาจำนวนหลายร้อยองค์ และอีกจำนวนหนึ่ง ติดต่อผ่านศูนย์พระเครื่องที่อยู่ตามจังหวัดต่าง ๆ ให้จัดหาพระเครื่องไทย โดยเฉพาะพระเครื่องเบญจภาคี โดยส่วนหนึ่งเช่าบูชาไปเพราะชื่นชอบในพุทธศิลป์ ที่มีลวดลายศิลปะแบบไทย ๆ ขณะที่อีกส่วนหนึ่งเช่าบูชาด้วยความศรัทธาว่า พระเครื่องเบญจภาคี มีพุทธคุณด้านแคล้วคลาด เมตตาและช่วยให้ค้าขายได้ดี และไม่เพียงแต่เศรษฐีใหม่ชาวจีนที่นิยมเสาะหาพระเครื่องไทยไว้ในครอบครองเท่านั้น แต่ล่าสุด ทั้งชาวฮ่องกง-สิงคโปร์-มาเลเซีย-ญี่ปุ่น-บรูไน-ดูไบ-สวิตเซอร์แลนด์ ก็นิยมสะสมพระเครื่องไทยด้วย โดยเริ่มจากชาวไทยที่เข้าไปทำงานยังประเทศ ดังกล่าว นำไปเผยแพร่ ซึ่งราคาในการเช่าบูชาสูงกว่าเมืองไทยถึง 3 เท่าตัว
ด้าน นายพยัพ คำพันธุ์ นายกสมาคมผู้นิยมพระเครื่องและพระบูชาไทย เปิดเผยว่า “เมื่อ 4-5 ปีที่ผ่านมามีนักธุรกิจ ชาวฮ่องกงที่มีความเป็นอยู่ระดับเศรษฐีชื่อ มิสเตอร์ไลน์ ก็อดวิน ได้มากว้านบูชาพระชุดเบญจภาคีและพระยอดนิยมในบ้านเราไปหลายสิบองค์ ซึ่งครั้งนั้นทำให้ตลาดพระเครื่องไทยตื่นตัวกันดีเนื่องจากมิสเตอร์ไลน์ ก็อดวิน มาบูชาไปเยอะมากซึ่งปัจจุบันก็พอได้ยินบ้างว่ามีชาวต่างชาติมาบูชาพระเครื่องไทยซึ่งจากที่สอบถามส่วนใหญ่จะเป็นผู้ที่เปิดแผงพระในฮ่องกงและสิงคโปร์โดยพระที่ซื้อไปเป็นพระที่ราคาไม่แพงมาก”
ทางด้าน นายศุภชัย เรืองสรรงามศิริ หรือฉายาในวงการพระคือ “ตี๋เหล้า” ประธานชมรมพระเครื่องท่าพระจันทร์ สนามพระเก่าแก่ของเมืองไทยเปิดเผยว่า “ตามข่าวที่ปรากฏนั้นเป็นจริงเพราะชาวต่างชาติมีหลายคนที่หันมาสะสมพระเครื่อง อย่างเช่น มิสเตอร์ฟุ๊ เป็นนักธุรกิจชาวฮ่องกงทำกิจการทัวร์จึงเดินทางมาเมืองไทยบ่อยมาก และมาทีไรก็จะมาดูพระเครื่องในสนามพระท่าพระจันทร์แล้วบูชาไป พอถามว่าบูชาไปทำไมตั้ง หลายองค์มิสเตอร์ฟุ๊จะบอกว่านำไปฝากเพื่อน ๆ เพราะเพื่อน ๆ ของเขามีความเชื่อถือว่าเป็นของดีมีพุทธคุณ จึงนำไปบูชานอกจากนี้ยังมีชาวสิงคโปร์ที่ชื่อ นายเฉินหลง แซ่ตั้ง ซึ่งรายนี้ทำการบูชาพระเครื่องมานานแล้ว เพื่อนำไปเปิดแผงให้บูชาต่อที่สิงคโปร์จึงเรียกได้ว่า รายนี้หันมาทำธุรกิจให้เช่าพระเหมือนในบ้านเราเลย”
ขณะที่ นายพิศาล เตชะวิภาค หรือ “ต้อย เมืองนนท์” เซียนพระชื่อดัง อุปนายกสมาคมผู้นิยมพระเครื่อง พระบูชาไทย เปิดเผยว่า “เรื่องดังกล่าวเป็นความจริง โดยขณะนี้พระเครื่องไทยได้กระจายไปอยู่กับนักธุรกิจหลายชาติ โดยเฉพาะ “เศรษฐีใหม่ชาวจีน” เนื่องจากมีเงินเหลือเฟือที่จะซื้อสิ่งของต่าง ๆ ที่หาได้ยากไว้ในครอบครอง รวมทั้งพระเครื่องไทยด้วย โดยเช่าบูชาไปเนื่องจากเชื่อว่าพระเครื่องไทยมีพระพุทธคุณ อภิหารต่าง ๆ รวมทั้งเช่าบูชาไว้เพื่อสะสม เพราะชื่นชมในพุทธศิลป์พระเครื่องไทย”
อย่างไรก็ตามขอฝากเตือนผู้นิยมพระทั้งชาวไทยและต่างประเทศให้ใช้วิจารณญาณในการเลือกเช่าพระเพราะในปัจจุบันมี พระเก๊-พระปลอมปะปนอยู่ในตลาดพระจำนวนมาก. เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2552
|