สุดยอดสำนักสักยันต์ -ลงอาคม ของเมืองไทย
แก้ไขล่าสุด beam^^pinklao เมื่อ 10-12-2009 03:51ในเมืองไทยเรานั้นแต่อดีตกาลมีสำนักสักยันต์ที่เข้มขลังอยู่มากมาย วันนี้ว่างฯเลยเอามาเป็นความรู้กันเล็กฯน้อย (ใครจะ copy ไปโพสเว็บอื่นกรุณาขออนุญาติเจ้าบ้านด้วยนะครับ )
เริ่มที่ฝ่ายฆราวาสกันก่อน
อาจารย์เที่ยง น่วมมานา วัดทอง (วัดสุวรรณาราม) เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ อาจารย์เที่ยงท่านนี้เป็นฆราวาสจอมขมังเวทย์ที่เรียนวิชาต่างฯมามากมาย ประวัติท่านผมไม่ทราบชัดเจน แต่ลูกศิษย์ของท่านพูดใด้เลยว่าเยอะจริงฯ สมัย 30-40 ปีก่อนไม่มีใครไม่รู้จัก พ่อเที่ยง วัดทองแน่นอนครับ
ศิษย์ที่ใด้รับวิชามาจาก อาจารย์เที่ยง ที่แน่ชัดก้อมี
-หลวงพ่อเผือด นราสโก วัดมะกอก เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร (ละสังขารไปแล้ว) หลวงตาเผือดมีศิษย์เอกรูปหนึ่งคือ พระอาจารย์นคร โฆษการี (หลวงพี่ปุ้ม) วัดศาลาแดง เขตทวีวัฒนา กรุงเทพมหานคร
-อาจารย์ทอง สนธิรอด ตลาดพลู กรุงเทพฯ
-อาจารย์ป่อง น่วมมานา (ลูกชายแท้ฯของ อาจารย์เที่ยง) ชุมชนบ้านบุ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร
***ยันต์ของพ่อเที่ยงที่มีชื่อเสียงคนรู้จักคือ หมูทองแดง เป็นวิชาเด่นครับ อาจารย์รอด บางกะปิ (พ่อบุญรอด สุขแสงจันทร์) แน่นอนเช่นกันครับ อาจารย์รอดท่านนี้หากอยู่ในแวดวง สักยันต์ คาถาอาคมแล้วไม่รู้จักคงเป็นไปไม่ใด้
อาจารย์รอดหรือพ่อบุญรอดนี้ท่านเป็นศิษย์ของหลวงพ่อปาน วัดคลองด่าน สมุทรปราการ ผู้สร้างเสืองาแกะอันดับหนึ่งของวงการสมัย 30-40 ปีที่แล้วลูกศิษย์พ่อรอดมีเยอะมาก มาถึงทุกวันนี้ก้อยังเห็นไม่น้อย หากท่านไม่ขลังหรือไม่มีดี ผมว่าคงไม่มีคนศรัทธาฝากตัวเป็นศิษย์ขนาดนี้หรอกครับสมัยก่อนหรือสมัยนี้หากเห็นยันต์นะที่ลูกกระเดือก รู้ใด้เลยว่า ศิษย์พ่อรอด แนนอนครับ ศิษย์ของพ่อบุญรอดที่รับวิชามาสืบทอดต่อก้อ...
-อาจารย์จำลอง สุขแสงจันทร์ ตอนนี้ท่านเปิดสำนักอยู่ที่ อำเภอหนองเสือ จังหวัดปทุมธานี (ลูกชายปู่รอดแท้ฯ)
-ส่วนที่สำนักเดิมของพ่อรอดยังมีสักอยู่เหมือนกันคือ ท่านอาจารย์หลำ ครับ (ซอยนวมินทร์ 90 เขตบึงกุ่ม กทม)
**ยันต์ที่เป็นสัญลักษณ์คือ จิ้งจก,เสือสมิง และมียันต์ครูคือนะ ที่ลูกกระเดือก
***อาจารย์ทอง สนธิรอดเคยรับการสักมาจากพ่อรอดด้วยเหมือนกันครับ อาจารย์ฟ้อน ดีสว่าง
อาจารย์ฟ้อนพื้นเพท่านเป็นชาวพระนครศรีอยุธยา ถ้าจำไม่ผิดคืออำเภอนครหลวงประวัติท่านเท่าที่ทราบท่านเคยใด้มาบวชอยู่วัดสระเกศ (ภูเขาทอง) แต่ท่านออกจะร้อนวิชาซักหน่อยภายหลังลาสิกขาออกมาแล้วใด้มาโปรดลูกศิษย์อยู่ที่บ้านพัก แถวฯสะพานเหลือง (เลยหัวลำโพงมานิดนึง)เมื่อก่อนท่านจะดังมากคือวิชาประสะเลือด คือเอาเลือดจากลิ้นของท่านนั้นนำมาสักอักขระและลงผ้ายันต์ให้ศิษย์ ติดตัวไปรบ สงครามส่วนมากจะรอดกลับมาทั้งนั้น ส่วนวิชาฝังเข็มท่านก้อฝังเช่นกันแต่ฝังด้วยเข็มเย็บผ้าธรรมดา ใช้อำนาจจืตฝังเข้าไปในร่างกายผู้ที่ปราถนาจะรับเข็มจากท่านครับ
ภายหลังที่ท่านถึงแก่กรรมลูกศิษย์ใด้ทำการฌาปนกิจท่านที่ วัดบึงพระอาจารย์ จังหวัดนครนายก
ศิษย์ที่สืบทอดวิชามาจากท่าน บอกตามตรงว่า ผมไม่ทราบ เห็นมีคนเอาชื่อท่านไปอ้างมากมาย ก้อช่างทำกันไปใด้
****แต่อยากรู้จริงฯ ลองกราบนมัสการถาม พระอาจารย์หนุ่ม วัดบางแวก ดูครับ ถ้าท่านเมตตาตอบคุณก้อจะทราบเอง
วันนี้ขอพักมือก่อนนะครับ ง่วงแล้วด้วย
แล้วมาอ่านต่อจ้า ..... อาจารย์ฟ้อน ดีสว่าง
อาจารย์ฟ้อนพื้นเพท่านเป็นชาวพ ...
ต้นฉบับโพสโดย beam^^pinklao เมื่อ 10-12-2009 04:11 http://khalong.com/board/images/common/back.gif
ด้วยความเคารพ ในพิธีไหว้ครูสายเข็มทองก็ได้ยินท่านกล่าวอัญเชิญ ปรมาจารย์ ฟ้อนมาร่วมพิธี แสดงว่าต้องมีความเกี่ยวพันกันใช่มั้ยครับ อาจารย์บีม :shutup:
ภูตแห่งสายลมหมาป่าพเนจร
เอ้าฯ มาเรียกผมอาจารย์ มิบังอาจครับ มิบังอาจ
เอาเป็นว่า พระอาจารย์มนตรี (อ.หนุ่ม) วัดบางแวกท่านมีครูบาอาจารย์ที่รับวิชาสายปู่ฟ้อนมา แน่นอน ครับ
ส่วนเป็นพระเกจิหรือฆราวาสท่านไหนนั้น
ขอปิดไว้ก่อนครับ
ขอบคุณครับ ขอขอบคุณที่แบ่งปันข้อมูล หลายๆท่านเคยได้ยินแต่ชื่อเสียง ไม่รู้ประวัติความเป็นมา
อาจารย์บีม ปิ่นเกล้า ขอคารวะด้วยอีกคน คริ คริ... ด้วยความเคารพ ในพิธีไหว้ครูสายเข็มทองก็ได้ยินท่าน ...
ต้นฉบับโพสโดย WanderWolf เมื่อ 10-12-2009 09:01 http://khalong.com/board/images/common/back.gif
ใช่ครับผม ในศาสตร์เเห่งวิชาเข็มทองคำนั้น มีหลายสายที่โด่งดัง อาทิเช่น
๑. สายของท่านพ่ออาจารย์ฟ้อน ดีสว่าง ของท่านจะเป็นเข็มตายครับ ฝังเเล้วอยู่กับที่
ปัจจุบันศิษย์สายอ.ฟ้อนที่ฝังเข็มทองก็มี พระอาจารย์เปีย วัดบางเพ็งใต้ถ. สุขาภิบาล๓
๒. สายของปู่โทน หล่ำเเพร เป็นสายของพระอาจารย์ในดง สายหลวงปู่เทพโลกอุดร
๓. สาย ท่านพ่ออาจารย์ประคอง รุ่นเจริญ หรือท่านพ่ออาจารย์ตือ ซึ่งท่านก็เรียนมาจากหลวงปู่พิมพ์มาลัย วัดหุบมะกล่ำ เเละท่านพ่ออาจารย์ประคอง
ก็เรียน วิชาเข็มทองสายอาจารย์ฟ้อน เหมือนกัน เหมือนดังงานไหว้ครูที่ผ่านมา ท่านฝังทั้งเข็มวิ่ง เเละเข็มตาย ให้ศิษย์ ครับ
๔. เข็มทองคำสายวิชาพรหม ก็ของท่านโยคีฮาเเล็ป ครับ
๕. สาย ของหลวงพ่อสาลี ( ลืมชื่อวัดไปครับ ขออภัย ) จ.ร้อยเอ็ดครับ
ก็พอรู้เเค่นี้เเหละครับผม คนทั่วไปจะเข้าใจว่า เข็มทองสามารถเตือนภัยได้ สมารถวิ่งไปมาในร่างกายได้ แต่ แท้จริงแล้ว การฝังเข็มทองก็เป็นการบอกกรรมฐานอย่างหนึ่งครับ ทำมั้ยผมถึงพูดอย่างนั้นหรือครับ เพราะ ว่าผู้ที่ได้รับการฝั่งเข็มทองไปแล้ว สิ่งที่จำต้องทำคือ ต้องภาวนา พุทธโธ ๆๆๆๆๆ ทุกขณะจิตที่พึงจะระฤก ได้ครับ ซึ่งก็คือ การเจริญกรรมฐานอย่างหนึ่งนี้เอง.... ++++ มาอ่านกันต่อ นะครับ
-อาจารย์ลำเจียก จันคง (อ.เจียก โพธิ์ดำ) วัดบัวขวัญ ถนนงามวงศ์วาน จังหวัดนนทบุรีสมัยช่วง 20-30 ปีก่อน ท่านมีศิษย์เป็นในย่าน เมืองนนท และในกรุงเทพก้อมีเยอะ สัญลักษณ์คือรูปโพธิ์ดำ ที่ท้องแขน ปัจุบันอาจารย์เจียกใด้ถึงแก่กรรมไปแล้วครับ
-อาจารย์หนู ทองศิริ (อ.หนู ดำเนิน)อาจารย์หนู ดำเนินท่านนี้สำนักท่านอยู่แถววัดท่าสุวรรณประวัติคร่าวฯว่าท่านเป็นศิษย์ของหลวงพ่อชุ่ม วัดราชคามพระผู้ทรงอภิญญารูปหนึ่งของจังหวัดราชบุรี คิดว่าเพื่อนฯพี่น้อง คงเคยเห็นกันบ้างสำหรับรอยสักรูปธงข้างหู นั่นแหละครับสัญลักษณ์ของครูหนู ดำเนิน**ตะกรุดของท่านคนราชบุรีเล่นหาไม่ต่างจากของพระเกจิเลยครับ
***ตอนนี้นึกในสายฆราวาสออกเท่านี้ครับ พักนี้รู้สึก ง่าวอย่างไรไม่รู้
ด้วยความเคารพ ส่วนสายบรรพชิต ในอดีตกาลมีพระเกจิที่เป็นอาจารย์สักลงอักขระเลขยันต์อยู่ไม่น้อยครับ ดังจะยกตัวอย่างประมาณนี้
หลวงปู่หน่าย อินทสีโล วัดบ้านแจ้งอำเภอบางปะหัน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
หลวงปู่หน่ายท่านเป็นศิษย์ที่เรียนวิชาโดยตรงมาจากหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ชัยนาท และอีกหลายฯท่านด้วยกัน ยันต์ที่ลูกศิษย์ชอบให้ท่านสักก้อคือ จิ้งจกซึ่งขลังมากในเรื่องเสน่ห์ ส่วนเรื่องคงกระพันนั้น เชื่อถือใด้เช่นกัน ภายหลังท่านวางเข็มจึงใด้ครอบวิชาให้ท่านอาจารย์ประเวทย์ คงเอียดเป็นผู้ลงเข็มและท่านจะครอบให้อีกทีหนึ่ง ปัจุบันทราบว่าอาจารย์เวทย์ท่านเลิกสักแล้วแต่ยังมีอาจารย์กบซึ่งเป็นผู้ช่วยอาจารย์เวทย์สักยุคหลังฯ ยังทำการสักอยู่ครับ
หลวงพ่อพรหม ติสสเทโว วัดขนอนเหนือ อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
หลวงพ่อพรหมท่านนี้เป็นศิษย์เอกของหลวงพ่อขัน วัดนกกระจาบ พระนครศรีอยุธยา (หลวงพ่อขันท่านเป็นพระอาจารย์ของเสด็จกรมหลวงชุมพรฯอีกรูปหนึ่งด้วย)ยันต์ที่ท่านสักคือพระบุตร-พระลบ (บุตรชายพระราม) ที่ไหล่ซ้าย-ขวา ว่ากันว่าเหนียวชนิดแมลงวันไม่ใด้กินเลือด และยันต์พระนารายณ์-พระพรหม บัวแก้ว เป็นต้น
**ปัจุบัน ศิษย์ซึ่งเป็นหลานชายแท้ฯของหลวงพ่อพรหม รับวิชาการสักนี้มาคือพระอาจารย์โมกข์ แต่ไม่ใด้สักบ่อยเนื่องจากสังขารไม่อำนวย จะพิจารณาเป็นบุคคลไป
หลวงปู่หรุ่น ใจภารา (หลวงพ่อหรุ่น เก้ายอด) วัดอัมพวันราชวัตร เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร
หลวงปู่หรุ่นท่านนี้ประวัติเป็นเสือเก่าออกปล้นแถว ปทุมธานี อยุธยา จนทางการต้องตามปราบแต่ปราบไม่ใด้ซักที สุดท้ายท่านใด้มอบตัวกับทางการ และใด้รับตำแหน่งเป็นกำนัน มียศว่า ขุนวิกลใจภาราจนเมื่อท่านเริ่มเบื่อทางโลกจึงออกบวชและมาจำพรรษาอยู่ที่วัดอัมพวัน ราชวัตร เป็นพระอาจารย์สักที่มีชื่อเสียง มีศิษย์เอกที่ช่วยสักคือ อาจารย์ภู่ สมัยนั้นนักเลงก๊กเก้ายอดนั้นมีถิ่นพำนักตั้งแต่ สะพานขาว โบ๊เบ๊ ไปถึงเกียกกาย และมีศิย์ที่เป็นทหารม้าอัศวรักษ์มากมาย เนื่องจากลูกชายของหลวงปู่หรุ่นคือ นายเสงี่ยม ใจภารา ก้อเป็นทหารม้าเช่นกัน
พูดถึงหลวงปู่หรุ่นแล้วสมัยก่อนนั้น ในเมืองหลวงมีก๊กนักเลงเยอะมาก เช่นก๊กแก้วไฝ วรจักร (ศิษย์อาจารย์แก้ว ค้ำวิบูลย์ อาจารย์แก้วเป็นศิษย์ของหลวงปู่ทอง วัดราชโยธ่า) ส่วนบางขุนพรหม ก้อเป็นก๊กของศิษย์หลวงปู่ภู วัดอินทรวิหาร ศิษย์หลวงปู่ภูท่านจะมีไม้ตะพดทพกกันทุกคนเรียกว่า นิ้วเพชรพระอิศวร ซึ่งเชือันว่า ไม้ตะพดนี้ โคนชี้ตาย ปลายชี้เป็นหลวงปู่ภูท่านจะบอกศิษย์ว่า อย่าเอาโคนไม้ตีใคร"มันจะตาย กูจะบาป"
เดี๋ยวมาใหม่นะครับ
ด้วยความเคารพ ^^ - -"
มิบังอาจครับ ผมไม่ใช่นักขงนักเขียนอะไรหรอกครับ
เพียงแต่ว่า เมื่อก่อนชอบเสาะแสวงหาครูบาอาจารย์เก่าฯ ไปเรื่อย
แต่ทุกวันนี้หยุดแล้วครับ แค่รักษาสิ่งที่ใด้มา ก้อพอแล้วครับ
ขอบคุณที่ให้เกียรติ มิบังอาจรับหรอกครับ ^-^
ปล. วิชาจิ้งจก ของ ลพ.ญาวัดบางพระ ก้อไม่เป็นรองใคร นะครับ ไม่ใด้เชียร์แต่ขอบอกว่า ของจริงครับ - -"
ปล. วิชาจิ้งจก ของ ลพ.ญาวัดบางพระ ก้อไม่เป็นรองใคร นะครับ ไม่ใด้เชียร์แต่ขอบอกว่า ของจริงครับ
ต้นฉบับโพสโดย beam^^pinklao เมื่อ 11-12-2009 14:52 http://khalong.com/board/images/common/back.gif
งั้นขอน้อมรับคำแนะนำ ไปวัดบางพระพรุ่งนี้โลด..... นับถือทุกท่านจริงๆ ได้ความรู้มากครับ +++ มาอ่านต่อครับ ยังไม่จบง่ายฯหรอกครับ ^^
หลวงปู่หนู ฉินนะกาโม วัดทุ่งแหลม อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี
ย้อนไปเมื่อ 20-30 ปีก่อน ทหารในค่ายภาณุรังษี และ ชายฉกรรจ์ในแถบราชบุรี - กาญจนบุรี ต่างพากันไปกราบขอรอยสักจากหลวงปู่หนู วิชาที่โดดเด่นสุดของท่านคือ หนุมานเชิญธง ว่ากันว่า เหนียวสุดฯสรรพวิชาของหลวงปู่หนูทั้งหมดตกไปอยู่ที่ หลวงพ่อดัด เจ้าอาวาสรูปต่อมา(หลวงพ่อดัดมรณภาพไปแล้ว)เป็นที่น่าเสียดายว่าไม่มีผู้ใดสืบทอดไว้
หลวงปู่แล ทิตตัพโพ วัดพระทรง อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบุรี
แน่นอนครับ ถ้าพูดถึงพระเกจิที่เป็นอาจารย์สักในเมืองไทย ไม่มีใครไม่รู้จักหลวงปู่แล วัดพระทรงแน่นอน หลวงปู่แลท่านนี้ท่านเรียนมาเยอะ ครูบาอาจารย์ท่านมีหลายท่านมากยันต์ของท่านที่ขึ้นชื่อลือชา คือหนุมานองค์ที่ 8 (เต็มกลางหลัง)ศิษย์ในสายเดียวกับท่านมีหลายรูปเช่น หลวงพ่อไสว วัดปรีดาราม(มรณภาพแล้ว) หลวงพ่ออุ้น วัดตาลกง (ยังทรงสังขารอยู่)
และเป็นที่น่าเสียดายเช่นกันว่าไม่มีใครใด้รับวิชาการสักจากท่านนี้ไว้เลยซักคน
พระครูตุ๋ย วัดอนงคาราม เขตคลองสาน กรุงเทพมหานคร
พระครูตุ๋ยท่านนี้มีชื่อเสียงในการสักอยู่ในยุคเดียวกับ อาจารย์เที่ยง วัดทอง หรืออาจจะหลังกว่านั้นเล็กน้อย ประวัติยังไม่ชัดเจนเท่าใหร่นัก***ติดไว้ก่อนแล้วกันครับ แต่ลองถามคนฝั่งธนรุ่นเก่าฯดูว่ารู้จัก พ่อตุ๋ย วัดอนงค์ หรือปล่าว คำตอบคงชัดเจนครับ ++เพิ่มเติมนะครับ อ่านต่อนะครับ เบื่อก้อต้องอ่านน่ะแหละ ^^
- หลวงพ่อสุด สิริธโร วัดกาหลง อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร
หลวงพ่อสุดเจ้าท่านเป็นเจ้าตำหรับยันต์ตะกร้อ และเสือเผ่น ยันต์ตะกร้อของท่านนี้ว่ากันว่า เหนียวชนิด ตีไม่มีแตกส่วนเสือเผ่นท่านสักไปให้แค่ 2-3 คนเท่านั้นในประวัติ
ศิษย์ที่สืบทอดวิชาของท่านไปมีพระอาจารย์พยนต์ ศุภกาแก้ว ซึ่งละสังขารไปแล้วเช่นกัน
หลวงปู่จำปา นารโท - หลวงพ่อสมภพ เตชปุญโญ วัดสาลีโขภิตาราม อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี
สายวิชาของวัดสาลีโขนี้ เน้นสักตรงกระหม่อมเป็นสำคัญ ถึงจะสักที่อื่นไล่ลงมา หลวงปู่จำปาท่านนี้ เรียนวิชามาจากหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ชัยนาท วิชาสำคัญคือเสือ สิงห์ และพญาหงส์ทอง ข้อห้ามสำคัญของวัดสาลีโขนี้ คือสักจากที่นี่ไปแล้วห้าม ไปสักสำนักอื่นอีกเป็นอันขาด จะทำให้เป็นบ้าใด้
ส่วนท่านหลวงพ่อสมภพนี้เป็นพระอาจารย์ที่เรียนมาจากจากนิมิตของหลวงปู่เผือก อดีตเจ้าอาวาสวัดสาลีโขนี้ เมื่อ สมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ใด้รับสรรพวิชามาครบถ้วน ท่านละสังขารไปเมื่อปีที่แล้วแต่ยังมีศิษย์ที่ใด้ครอบวิชาไว้คือ พระอาจารย์ขาว วัดบางพูดนอก อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี